หลักการสอบสวนแบบไม่จับกุม
การสอบสวนแบบไม่จับกุม
การสอบสวนแบบไม่จับกุมเป็นหลักการที่ใช้ในการสอบสวนผู้ต้องสงสัย (มาตรา 198 วรรค 1 「ของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา」)
เหตุผลในการจำคุกผู้ต้องสงสัย
เหตุผลในการจำคุก
- ในกรณีที่อัยการมีเหตุผลอันสมควรที่จะสงสัยว่าบุคคลนั้นได้ก่ออาชญากรรม และผู้ต้องสงสัยเข้าข่ายในกรณีใดๆ ด้านล่างนี้ ในกรณีนี้ พนักงานอัยการอาจขอให้ผู้พิพากษาของสำนักงานเขตที่มีอำนาจออกหมายจับและจำกัดอิสรภาพส่วนบุคคลของผู้ต้องสงสัยได้ (ตัวบทหลักของมาตรา201 วรรค 1และมาตรา70 วรรค 1「ของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา」)
· หากผู้ต้องสงสัยไม่มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม
· หากผู้ต้องสงสัยอาจทำลายหลักฐาน
· หากผู้ต้องสงสัยพยายามหลบหนีหรืออาจพยายามหลบหนี
การขอหมายจับเพื่อจำคุกผู้ต้องสงสัย
วิธีคุมขังผู้ต้องสงสัย
- ในการคุมขังผู้ต้องสงสัย เจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายคดีอาจขอให้พนักงานอัยการร้องขอให้ผู้พิพากษาสำนักงานเขตที่มีอำนาจเป็นผู้ออกหมายจับได้ (ตัวบทหลักของมาตรา201 วรรค 1「ของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา」)
- อย่างไรก็ตาม สำหรับอาชญากรรมที่มีโทษปรับน้อยกว่า500,000 วอน ซึ่งมีบทลงโทษด้วยการกักขังหรือปรับ หมายจับจะออกได้เฉพาะผู้ต้องสงสัยที่ไม่มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมเท่านั้น (เงื่อนไขตามมาตรา 201 วรรค 1 「ของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา」)
การขอหมายจับเพื่อจำคุกผู้ต้องสงสัย
- อัยการขอให้ผู้พิพากษาสำนักงานเขตที่มีอำนาจออกหมายจับ พร้อมส่งข้อมูลที่ยืนยันความจำเป็นในการกักขัง หากคำร้องของพนักงานอัยการสมเหตุสมผล ผู้พิพากษาจะออกหมายจับหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอน “สอบปากคำผู้ต้องสงสัยก่อนการกักขัง (การสอบสวนเพื่อประเมินความชอบธรรมในการออกหมายจับ)”ดังนี้ (มาตรา 201 วรรค 2 และ 4 「ของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา」)
การสอบสวนผู้ต้องสงสัยก่อนการคุมขัง (การสอบสวนเพื่อประเมินความชอบธรรมในการออกหมายจับ)
การสอบสวนผู้ต้องสงสัยก่อนการคุมขัง (การสอบสวนเพื่อประเมินความชอบธรรมในการออกหมายจับ)
- ถ้าไม่มีเหตุผลเฉพาะที่จำเป็นอื่นใด ผู้พิพากษาสำนักงานเขตที่ได้รับการร้องขอให้ออกหมายจับ จะสอบปากคำผู้ต้องสงสัยได้จนถึงวันถัดไปหลังจากวันที่มีการยื่นขอหมายจับ
- สำหรับผู้ต้องสงสัยอื่นที่นอกเหนือจากผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ผู้พิพากษาจะออกหมายจับเพื่อจับกุมและสอบปากคำผู้ต้องสงสัย ผู้พิพากษามีเหตุผลอันสมควรในการพิจารณาว่าผู้ต้องสงสัยมีความผิดจริงหรือไม่และดำเนินการซักถามเขา/เธอ เว้นแต่ผู้ต้องสงสัยจะหลบหนีหรือมีเหตุผลอื่นที่ทำให้การสอบปากคำเป็นไปไม่ได้ (มาตรา 201-2 วรรค 2 「ของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา」)
การใช้หมายจับเพื่อจำคุกผู้ต้องสงสัย
การใช้หมายจับเพื่อจำคุกผู้ต้องสงสัย
- เจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายคดีจะดำเนินการตามหมายจับอย่างรวดเร็วและถูกต้องตามคำสั่งของพนักงานอัยการ ในกรณีดังกล่าว จะต้องแสดงหมายจับและต้องมอบสำเนาให้ผู้ต้องสงสัยก่อนที่จะนำผู้ต้องสงสัยไปยังศาลที่กำหนดหรือสถาบันอื่น (ตัวบทหลักของมาตรา81 วรรค 1และมาตรา85 วรรค 1「ของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา」)
- หากจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล, ผู้พิพากษาที่ได้รับมอบหมาย หรือผู้พิพากษาที่ได้รับมอบอำนาจ อาจสั่งการให้ดำเนินการตามหมายจับได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายคดีจะดำเนินการตามหมายจับที่มีการออกคำสั่งโดยทันที
(เงื่อนไขตามมาตรา 81 วรรค 1 「พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา」)
ระยะเวลาในการจำคุกผู้ต้องสงสัย
ระยะเวลาในการจำคุกโดยเจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายคดี
- หากเจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายคดีคุมขังผู้ต้องสงสัย เขา/เธอจะต้องนำส่งตัวผู้ต้องสงสัยให้อัยการภายใน10 วัน หลังผ่านช่วงเวลานี้ไป ผู้ต้องสงสัยจะได้รับการปล่อยตัว (มาตรา 202 「ของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา」)
ระยะเวลาในการจำคุกโดยอัยการ
- ในกรณีที่อัยการได้จับกุมผู้ต้องสงสัยหรือเจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายคดีได้นำส่งตัวผู้ต้องสงสัยให้อัยการตามกฎข้อบังคับแล้ว ในกรณีนี้ อัยการจะยื่นฟ้องคดีภายใน10 วันและต้องปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยหลังผ่านช่วงเวลานี้ไป (มาตรา 203 「ของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา」)
※ อย่างไรก็ตาม พนักงานอัยการอาจขยายระยะเวลาการจำคุกอีกรอบได้สูงสุด 10 วัน หากได้รับอนุญาตจากผู้พิพากษา (มาตรา 205 「ของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา」)
※ การตีความศัพท์ทางกฎหมาย
การนำส่งตัวผู้ต้องสงสัยตามข้อบังคับ: วลีนี้หมายถึง การนำตัวผู้ถูกจำกัดอิสรภาพส่วนบุคคลไปยังสถานที่ที่กำหนดตามกฎข้อบังคับ
< แหล่งข้อมูล: ศัพท์ทางกฎหมายและคดีต่างๆ ที่รวบรวมโดย Ministry of Government Legislation และสถาบันวิจัยกฎหมายแห่งเกาหลี, 2003>