THAI

- อายุ บุคลิกภาพ ความประพฤติ สติปัญญา และสภาพแวดล้อมของอาชญากร

- ความสัมพันธ์ระหว่างอาชญากรกับผู้ได้รับบาดเจ็บ

- แรงจูงใจ วิธีการ และผลลัพธ์ของอาชญากรรม

- สถานการณ์หลังการก่อเหตุอาชญากรรม

- “ความผิดสะสม” หมายถึง บุคคลที่กระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยความผิดดังกล่าวเป็นความผิดที่ต้องระวางโทษจำคุกแบบไม่ต้องใช้แรงงานหรือไม่มีการเพิ่มโทษหลังจากมีพิพากษาตัดสิน และได้พ้นจากโทษจำคุกแบบที่ไม่ต้องใช้แรงงานหรือมีการเพิ่มโทษในภายหลังไปแล้ว (มาตรา 35 วรรค 1 「ของพระราชบัญญัติอาญา」)

- หากเข้าข่ายความผิดสะสม จะส่งผลให้อาชญากรต้องรับโทษถึงสองเท่าสำหรับโทษระยะยาวที่กำหนดภายใต้「พระราชบัญญัติอาญา」 (มาตรา 35 วรรค 2 「ของพระราชบัญญัติอาญา」)

- ในกรณีที่มีคนช่วยเหลือหรือสนับสนุนให้บุคคลอื่นก่ออาชญากรรมโดยออกคำสั่งหรือการกำกับดูแล หากบุคคลใดยุยงส่งเสริมบุคคลอื่น เขา/เธอจะถูกลงโทษด้วยโทษจำคุกระยะยาวหรือจ่ายค่าปรับในอัตราที่สูงมาก พร้อมรับโทษเพิ่มอีก 1/2 ของบทลงโทษหรือค่าปรับนั้น หากบุคคลให้การช่วยเหลือบุคคลอื่น เขา/เธอจะถูกลงโทษสำหรับการกระทำความผิดทางอาญานั้น (มาตรา 34 วรรค 2 「ของพระราชบัญญัติอาญา」)

- หากบุคคลใดก่ออาชญากรรมตามที่ระบุด้านล่างนี้ในลักษณะที่ติดเป็นนิสัย เขา/เธอจะถูกลงโทษเพิ่มอีก 1/2 ของบทลงโทษที่เกี่ยวข้อง (มาตรา 264 「ของพระราชบัญญัติอาญา」)

- “ความผิดหลายกระทง” หมายถึง อาชญากรที่ก่ออาชญากรรมหลายคดีโดยที่ไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจน หรือก่ออาชญากรรมหลายคดีก่อนที่จะก่ออาชญากรรมซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้ายที่ตั้งใจไว้ (ศัพท์ทางกฎหมายและคดีต่างๆ ที่รวบรวม โดย Ministry of Government Legislation และสถาบันวิจัยกฎหมายแห่งเกาหลี, 2003)

- หากผู้กระทำความผิดหลายกระทงได้รับโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต จะต้องได้รับโทษเพิ่มอีก 1/2 ของระวางโทษระยะยาว หรือถูกปรับโทษอย่างมากจากคดีอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดพร้อมรับโทษหรือจ่ายค่าปรับ ในกรณีนี้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ถูกปรับจากบทลงโทษจะต้องไม่เกินระยะเวลาหรือค่าใช้จ่ายรวมที่กำหนดไว้สำหรับการกระทำความผิดทางอาญาแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตาม กฎนี้ใช้ไม่ได้กับบทลงโทษเพิ่มเติมสำหรับค่าปรับหรือการยึดทรัพย์ (มาตรา 38 วรรค 1 อนุวรรค 2 「ของพระราชบัญญัติอาญา」)

- ในกรณีที่มีผู้ฝ่าฝืนและทำร้ายผู้ขับขี่รถยนต์ระหว่างการปฏิบัติงาน (รวมถึงเมื่อผู้ขับขี่หยุดรถชั่วคราวระหว่างการปฏิบัติงาน เพื่อให้ผู้โดยสารขึ้นหรือลงเพื่อให้บริการขนส่งผู้โดยสารตามที่ระบุในมาตรา 2 อนุวรรค 3 ของพระราชบัญญัติบริการขนส่งผู้โดยสาร) ในกรณีนี้ ผู้ก่อเหตุจะถูกตัดสินจำคุกมากกว่าสามปีโดยระบุระยะเวลาที่แน่ชัด หากการใช้ความรุนแรงของผู้ก่อเหตุส่งผลให้ผู้ขับขี่รถยนต์เสียชีวิต เขา/เธอต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกเกินห้าปี (มาตรา 5-10 วรรค 2 「ของ พระราชบัญญัติว่าด้วยการเพิ่มบทลงโทษ ฯลฯ ของอาชญากรรมเฉพาะ」)

- หากบุคคลใดทำร้ายผู้ขับขี่รถยนต์ระหว่างการปฏิบัติงาน เขา/เธอจะถูกตัดสินจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน 20 ล้านวอน (มาตรา 5-10 วรรค 1 「ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการเพิ่มบทลงโทษ ฯลฯ ของอาชญากรรมเฉพาะ」)

- ในกรณีที่มีผู้ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์หรือเครื่องจักรก่อสร้างนอกเหนือจากเครื่องจักรก่อสร้างภายใต้มาตรา 26 วรรค 1 「กฎหมายการจัดการเครื่องจักรก่อสร้าง」ในสถานการณ์ที่ขัดขวางและส่งผลให้การขับขี่ตามปกติยากลำบากเช่น การขับรถขณะเมาสุราหรือเสพยาเสพติด และส่งผลให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ในกรณีนี้ผู้ก่อเหตุจะถูกตัดสินจำคุก 1 ถึง 15 ปี หรือปรับ 10 ล้านถึง 30 ล้านวอน หากการกระทำของผู้ก่อเหตุส่งผลให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตายเขา/เธอต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกมากกว่าสามปี (มาตรา 5-11 วรรค 1 「ของ พระราชบัญญัติว่าด้วยการเพิ่มบทลงโทษฯลฯ ของอาชญากรรมเฉพาะ」)

- อาชญากรอาจถูกลงโทษด้วยระวางโทษที่เบากว่าหรือได้รับการยกเว้นจากการลงโทษ ในกรณีต่อไปนี้:① หากอาชญากรรับสารภาพต่อหน้าหน่วยงานสอบสวนที่รับผิดชอบหลังจากก่ออาชญากรรมหรือ ② หากอาชญากรยอมรับผิดหลังจากฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บแสดงความเต็มใจที่จะไม่เอาโทษผู้กระทำความผิด (มาตรา 52 「แห่งพระราชบัญญัติอาญา」)

- หากมีเหตุผลใดๆ ที่สามารถบรรเทาโทษจากคดีอาชญากรรมได้ อาชญากรอาจถูกลงโทษด้วยโทษที่เบากว่าที่กำหนดไว้สำหรับการกระทำความผิดทางอาญาตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด (มาตรา 53 ของ「พระราชบัญญัติอาญา」กับศัพท์ทางกฎหมายและคดีต่างๆ ที่รวบรวมมา」)

- หากมีการกำหนดบทลงโทษต่างๆ เอาไว้สำหรับความผิดทางอาญาแล้ว จะต้องมีการกำหนดบทลงโทษ ก่อนที่จะมีการลดหย่อนโทษ (มาตรา 54 「ของพระราชบัญญัติอาญา」)

- การบรรเทาโทษตามกฎหมายให้ดำเนินการ ดังนี้ (มาตรา 55 วรรค 1 「ของพระราชบัญญัติอาญา」)

- หากมีเหตุผลหลายประการสำหรับการลดหย่อนโทษตามกฎหมาย อาจมีการปรับลดโทษซ้ำอีกได้