วิธีพิจารณาความอาญา
การสอบสวน- การเริ่มต้นกระบวนการสอบสวน
· หน่วยงานสอบสวนจะเริ่มต้นการตรวจสอบคดี โดยไม่คำนึงว่าคดีนั้นจะได้รับแจ้งเหตุ, ตั้งข้อกล่าวหา หรือรายงานหรือไม่ก็ตาม หากพิจารณาแล้วว่า ผู้ที่ถูกกล่าวหาอาจเป็นผู้ต้องสงสัยในการก่ออาชญากรรมนั้น หน่วยงานสอบสวนจะพิจารณาคดีโดยรวบรวมข้อมูลอาชญากรรม หลักฐาน และดำเนินการสอบสวนผู้กระทำความผิด (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลสำหรับขั้นตอนการพิจารณาคดี)
- การจับกุม
· หมายจับ
√ ในกรณีที่หน่วยงานสอบสวนมีเหตุผลอันสมควรที่จะสงสัยว่า ผู้ต้องสงสัยในคดีอาญานั้นได้ก่ออาชญากรรมจริง แต่ผู้ต้องสงสัยปฏิเสธหรืออาจปฏิเสธที่จะปรากฏตัวต่อหน้าศาล ในกรณีนี้ หน่วยงานอาจออกหมายจับผ่านทางผู้พิพากษาและจับกุมผู้ต้องสงสัยพร้อมหมายจับนั้น (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลขั้นตอนการพิจารณาคดี)
· การจับกุมโดยไม่มีหมายศาล
√ ในกรณีที่หน่วยงานสอบสวนพิจารณาว่า ผู้ต้องสงสัยก่ออาชญากรรมร้ายแรงจริง แต่ไม่สามารถออกหมายจับได้เนื่องจากเหตุผลเร่งด่วน ในกรณีนี้หน่วยงานอาจแจ้งสถานการณ์และจับกุมผู้ต้องสงสัยได้โดยไม่มีหมายจับ (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลขั้นตอนการพิจารณาคดี)
· การจับกุมผู้กระทำความผิดที่โจ่งแจ้ง
√ ผู้กระทำความผิดซึ่งหน้าที่กำลังกระทำความผิดอยู่หรือกำลังจะก่ออาชญากรรม อาจถูกจับกุมโดยไม่มีหมายศาล (อ้างอิงจากศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลสำหรับการพิจารณาคดี)
- การจับกุมและการกักขัง (จำคุก)
· ในกรณีที่หน่วยงานสอบสวนสรุปว่า ผู้ต้องสงสัยก่ออาชญากรรมร้ายแรงจริง และไม่มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม หรืออาจหลบหนีหรือทำลายหลักฐานได้ ในกรณีนี้ หน่วยงานอาจออกหมายจับเพื่อกักขังผ่านทางผู้พิพากษาและจำคุกผู้ต้องสงสัยตามนั้น (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลขั้นตอนการพิจารณาคดี)
การไกล่เกลี่ยและการวางทรัพย์- การไกล่เกลี่ย
·ในระหว่างการพิจารณาคดีอาญา อัยการหรือผู้พิพากษามักจะแนะนำให้ผู้ต้องสงสัยหรือจำเลยไกล่เกลี่ยยุติคดี หากผู้ต้องสงสัยหรือจำเลยยินยอมไกล่เกลี่ย อัยการหรือผู้พิพากษาจะพิจารณาเรื่องนี้และตัดสินลงโทษเขา/เธอด้วยค่าปรับที่เบากว่า (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลสำหรับขั้นตอนการพิจารณาคดี)
- การวางทรัพย์เพื่อรับโทษที่เบาลง
·ในกรณีที่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยตกลงกันได้เนื่องจากเหยื่อร้องขอมากเกินไป หรือผู้ก่อเหตุไม่มีเงินมากพอที่จะชดใช้เหยื่อได้ ในกรณีนี้ ผู้ก่อเหตุอาจขอการวางทรัพย์ เพื่อเป็นหลักประกันในการรับโทษปรับที่เบากว่า และเพื่อแสดงว่าเขา/เธอมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลขั้นตอนการดำเนินคดี)
การยื่นฟ้องดำเนินคดี (คำฟ้อง)- การส่งสำนวนคดี
· การนำส่งสำนวนคดีหมายถึง การที่เจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายคดีได้ส่งต่อผู้ต้องสงสัย รวมถึงบันทึกและหลักฐานคดีอาญาที่สอบสวนแล้วทั้งหมดไปยังพนักงานอัยการ (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลขั้นตอนพิจารณาคดี)
- คำฟ้อง
· ในกรณีที่อัยการเห็นว่า จำเป็นที่ผู้ต้องสงสัยต้องขึ้นศาลหลังจากที่ได้ตรวจสอบสำนวนคดีที่ส่งมาจากเจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายคดีแล้ว ซึ่งพนักงานอัยการเป็นผู้รับรองเรื่องนี้ด้วยตัวของเขา/เธอเอง เป็นต้น ในกรณีเช่นนี้ อัยการจะส่งคดีที่เกี่ยวข้องไปยังศาล (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของ สำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลสำหรับการพิจารณาคดี)
· การขอประกันตัว
√ หากอัยการจับกุมและตั้งข้อหา จำเลยอาจขอให้ศาลปล่อยตัวตามเงื่อนไขการจ่ายเงินประกันซึ่งเรียกว่าการประกันตัวได้ (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลสำหรับขั้นตอนการพิจารณาคดี)
· ขอคำพิพากษาสรุป
√ ในกรณีที่อัยการเห็นว่า เป็นการเหมาะสมกว่าที่ผู้ต้องสงสัยจะถูกปรับแทนที่จะถูกตัดสินจำคุกหรือจำคุกแบบไม่ต้องใช้แรงงานในเรือนจำ ในกรณีนี้พนักงานอัยการอาจขอสรุปคำพิพากษาพร้อมคำฟ้องก็ได้เช่นกัน (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลสำหรับขั้นตอนการพิจารณาคดี)
- การสั่งไม่ฟ้อง
· การสั่งไม่ฟ้องหมายถึง การที่พนักงานอัยการตัดสินว่า เป็นการสมเหตุสมผลที่จะไม่ส่งคดีที่ถูกสอบสวนไปยังศาลและเลือกยุติคดีแทนการออกคำฟ้อง การระงับคำฟ้องและตัดสินว่า ผู้ต้องสงสัยบริสุทธิ์ เป็นกระบวนวิธีหลักในการเลือกที่จะไม่ฟ้อง (อ้างอิง ศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลสำหรับการพิจารณาคดี)
การไกล่เกลี่ยทางอาญา- ในกรณีที่อัยการเห็นว่า ฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุอาชญากรรมจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาเป็นอย่างมาก และต้องการให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายยุติข้อพิพาทด้วยดี ในกรณีนี้ พนักงานอัยการอาจส่งคดีอาญาเพื่อดำเนินการไกล่เกลี่ย โดยผ่านการยื่นเรื่องจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องหรือใช้อำนาจรัฐของอัยการเอง อย่างไรก็ตาม อัยการจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคู่กรณีถึงแม้จะส่งมอบคดีโดยอำนาจอย่างเป็นทางการของเขา/เธอเองก็ตาม (มาตรา 2 วรรค 1 ของ「แนวทางปฏิบัติสำหรับการไกล่เกลี่ยทางอาญาในเชิงปฏิบัติ」)
กระบวนการยุติธรรมทางอาญาการพิจารณาคดี
· ศาลจะดำเนินการพิจารณาคดีโดยเปิดเผยสำหรับคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลสำหรับการพิจารณาคดี)
· อย่างไรก็ตาม ศาลอาจตัดสินใจยืนตามคำพิพากษาสรุป ตามเอกสารที่พนักงานอัยการจัดทำขึ้น นั่นหมายความว่า ศาลจะดำเนินการตัดสินคดีตามเอกสารบันทึกเท่านั้น ไม่ใช่การพิจารณาคดีโดยเปิดเผย (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลขั้นตอนการพิจารณาคดี)
- การพิพากษาคดี
· ผู้พิพากษาอาจตัดสินว่า ผู้ต้องสงสัยมีความผิดตามผลการพิจารณาคดี ตามพฤติการณ์แห่งการลดหย่อนโทษ ผู้พิพากษาอาจพิพากษาจำคุก, ระงับการบังคับคดี หรือระงับโทษสำหรับพฤติการณ์บรรเทาทุกข์ได้ (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลสำหรับการพิจารณาคดี)
· หากไม่มีหลักฐานว่าผู้ต้องสงสัยมีความผิดในคดีที่ถูกฟ้องร้อง ผู้พิพากษาจะประกาศว่าผู้ต้องสงสัยเป็นผู้บริสุทธิ์ (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลเพื่อพิจารณาคดี)
· ในกรณีที่บุคคลหนึ่งถูกตัดสินว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ในศาลหลังจากถูกจำคุกไปแล้ว หรือหากบุคคลนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างชัดเจนหลังได้รับการยกเว้นจากการฟ้องร้องโดยโจทก์ ตาม「พระราชบัญญัติการชดเชยความผิดทางอาญาและการฟื้นฟูชื่อเสียงที่สูญเสียไป」 ผู้ที่ถูกจับผิดตัวอาจเรียกร้องค่าชดเชยสำหรับการถูกจำคุก (อ้างอิงศูนย์บริการสาธารณะออนไลน์ของสำนักงานอัยการ > ข้อมูลเอกสารฟ้องร้อง > ข้อมูลขั้นตอนการพิจารณาคดี)
การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน- ในกรณีที่เหยื่อต้องเข้าไปพัวพันกับคดีก่อเหตุซึ่งทำให้เกิดการบาดเจ็บจนถึงแก่ชีวิต, การบาดเจ็บ, การบาดเจ็บของบุพการี, การบาดเจ็บสาหัส, การบาดเจ็บสาหัสของบุพการี หรือการเสียชีวิตอันเป็นผลจากการบาดเจ็บทางร่างกาย ในกรณีนี้ เหยื่ออาจเรียกร้องให้ออกคำสั่งจ่ายชดเชยในระหว่างกระบวนการพิจารณาคดีอาญา และแม้กระทั่งเรียกร้องให้มีการเยียวยาทางแพ่งเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย (อ้างอิงสำนักงานอัยการเขตเชจู > รายงาน > กระดานข่าว > ระบบคำสั่งเพื่อชดเชย)