การฆ่าเชื้อ
หน้าที่การฆ่าเชื้อ
- ผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองตนเองพิเศษหรือนายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขตจะต้องดำเนินการทำความสะอาดหรือฆ่าเชื้อตามมาตรฐานและวิธีของการฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันโรคติดต่อหรือจะต้องใช้มาตรการกำจัดหนูและศัตรูพืช ฯลฯ ที่ถูกสุขลักษณะ (ต่อไปนี้เรียกว่า “การฆ่าเชื้อ”) เพื่อดำเนินการฆ่าเชื้อ สถานีอนามัยแต่ละแห่งสามารถจัดการและบริหารทีมงานกักกันโรคได้ (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 ส่วนต้นมาตรามาตรา 51 วรรค 1·วรรค 2, 「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 36 ตั้งแต่วรรค 1 ถึงวรรค 3 และ เอกสารแนบตาราง 5·6).
※ การฆ่าเชื้อจะดำเนินการอย่างปลอดภัย และต้องส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์และธรรมชาติให้น้อยที่สุด (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」ตอนสุดท้ายมาตรา 51 วรรค 1).
- บุคคลที่จัดการ·ประกอบการสิ่งอำนวยความสะดวกที่ผู้คนจำนวนมากอาศัยหรือใช้งาน เช่น ที่พักอาศัยรวมกันและสถานที่ประกอบธุรกิจที่พักแรม ฯลฯ ที่ระบุไว้ตาม「พระราชบัญญัติการบังคับใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 24 จำเป็นจะต้องฆ่าเชื้อที่จำเป็นในการป้องกันโรคติดต่อโดยจะต้องดำเนินการตามมาตรฐานจำนวนครั้งของการฆ่าเชื้อใน「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」เอกสารแนบตาราง 7 (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 51 วรรค 3, 「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 36 วรรค 4 และ เอกสารแนบตาราง 7).
· ผู้จัดการ·ผู้ประกอบการของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องฆ่าเชื้อตามข้างต้น จะต้องให้ผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตฆ่าเชื้อดำเนินการฆ่าเชื้อให้บุคคลที่แจ้งต่อบริษัทฆ่าเชื้อ (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 51 วรรค 4 เนื้อหา).
· อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้รับเหมาจัดการที่พักอาศัยมีอุปกรณ์การฆ่าเชื้อเตรียมพร้อมตาม 「พระราชบัญญัติการจัดการที่พักอาศัยรวมกัน」 บุคคลที่จัดการที่พักอาศัยรวมกันสามารถฆ่าเชื้อได้ด้วยตนเอง (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 51 วรรค 4 ที่มา).
· บุคคลที่ไม่ยอมฆ่าเชื้อตาม 「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 51 วรรค 3 จะมีโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 83 วรรค 3 ข้อ 3).
การมอบหมายและทำหน้าที่ฆ่าเชื้อแทน
- ผู้ว่าจังหวัดปกครองตนเองพิเศษ ผู้ว่านครปกครองตนเองพิเศษ ผู้ว่าราชการเมือง·จังหวัด หรือนายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขตสามารถมอบหมายหน้าที่การกักกันและฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันโรคติดต่อให้แก่สถาบันการแพทย์และสถาบัน·องค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์และสุขอนามัย (「พระราชบัญญัติการบังคับใช้สาธารณสุขในท้องถิ่น」 มาตรา 23 วรรค 1 ข้อ 3).
- กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองตนเองพิเศษหรือนายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขตต้องดำเนินการฆ่าเชื้อเอง สามารถให้ผู้ประกอบการธุรกิจฆ่าเชื้อดำเนินการแทนได้ (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 56).
· บุคคลที่ต้องการประกอบกิจการฆ่าเชื้อ จะต้องเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก·อุปกรณ์ให้พร้อมตามมาตรฐานแรงงานตาม「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 เอกสารแนบตาราง 8 และต้องรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองตนเองพิเศษหรือนายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขต (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 52 วรรค 1 และ 「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 37 วรรค 1).
· ผู้ประกอบการธุรกิจฆ่าเชื้อ (กรณีเป็นบริษัท หมายถึง ตัวแทนนั้น ๆ) จะต้องได้รับการฝึกอบรมหลักสูตรความรู้เรื่องการฆ่าเชื้อตาม「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 เอกสารแนบตาราง 9 ภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่รายงานธุรกิจการฆ่าเชื้อ โดยพนักงานฆ่าเชื้อจะต้องได้รับการฝึกอบรมเรื่องการฆ่าเชื้อ (ต้องได้รับการฝึกอบรมทบทวนอย่างน้อย 1 ครั้ง ตั้งแต่วันที่เสร็จการฝึกอบรมทันทีจนถึงวันสุดท้ายของสิ้นเดือนที่ครบ 3 ปี) ด้วยเช่นกัน (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 55 วรรค 1·วรรค 2 และ 「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 41 วรรค 1·วรรค 2).
※ การศึกษาเกี่ยวกับผู้ประกอบการธุรกิจฆ่าเชื้อ ฯลฯ ตามข้างต้นจะดำเนินการโดยสถาบันที่กำหนดโดยผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลี และกรณีผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลีกำหนดสถาบันฝึกอบรม จะต้องออกใบกำหนดการฝึกอบรม「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 เอกสารแนบหมายเลข 30 (「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 41 วรรค 3).
· ผู้ประกอบการธุรกิจฆ่าเชื้อจะต้องดำเนินการฆ่าเชื้อตามมาตรฐานและวิธีตาม「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 เอกสารแนบตาราง 5·6 และต้องบันทึกและจัดเก็บข้อมูลการฆ่าเชื้อไว้เป็นเวลา 2 ปี (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 54 วรรค 1,「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 40 วรรค 1·วรรค 3 และเอกสารแนบตาราง 5·6).
สิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องฆ่าเชื้อ
- สิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องฆ่าเชื้อที่มีความจำเป็นต้องทำการฆ่าเชื้อมีดังต่อไปนี้ (「พระราชบัญญัติการบังคับใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 24 และ 「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 36 วรรค 4 และเอกสารแนบตาราง 7).
ประเภทของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องฆ่าเชื้อ
|
จำนวนครั้งในการฆ่าเชื้อ
|
เมษายน ถึงกันยายน
|
ตุลาคม ถึงมีนาคม
|
1. สถานที่ประกอบธุรกิจที่พักแรมตาม「พระราชบัญญัติการจัดการด้านสาธารณสุข」 (เฉพาะกรณีมีจำนวนห้องตั้งแต่ 20 ห้องขึ้นไป), สถานที่ประกอบธุรกิจที่พักแรมสำหรับนักท่องเที่ยวตาม「พระราชบัญญัติส่งเสริมการท่องเที่ยว」 2. สถานประกอบการธุรกิจบริการอาหาร (ต่อไปนี้เรียกว่า “สถานประกอบการธุรกิจบริการอาหาร”) ตาม「พระราชบัญญัติการบังคับใช้ด้านสุขาภิบาลอาหาร」 มาตรา 21 ข้อ 8 (ยกเว้น หัวข้อ จ.) ที่มีพื้นที่รวม 300 ตารางเมตรขึ้นไป 3. รถโดยสารประจำทาง รถโดยสารประจำทางหมู่บ้านเกษตรกรและชาวประมง·รถประจำทางหมู่บ้าน·รถประจำทางระหว่างเมือง·รถบัสเช่า· รถสำหรับพิธีศพตาม「พระราชบัญญัติบริการขนส่งผู้โดยสาร」, เครื่องบินตาม「พระราชบัญญัติความปลอดภัยการบิน」และสิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบินตาม「พระราชบัญญัติธุรกิจการบิน」, เรือโดยสารตาม「พระราชบัญญัติการขนส่งทางทะเล」, ห้องพักผู้โดยสารที่มีพื้นที่กว้าง 300 ตารางเมตรขึ้นไปตาม「พระราชบัญญัติท่าเรือ」, รถไฟขนส่งผู้โดยสาร อาคารสถานีรถไฟ และสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานีตาม「พระราชบัญญัติกิจการรถไฟ」และ「พระราชบัญญัติการรถไฟในเมือง」 4. ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ร้านค้าที่ขายสินค้าเฉพาะอย่าง ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ร้านค้าขนาดใหญ่อื่น ๆ ตาม「พระราชบัญญัติการพัฒนาอุตสาหกรรมการจัดจำหน่าย」และตลาดท้องถิ่นตาม「พระราชบัญญัติพิเศษส่งเสริมตลาดท้องถิ่นและย่านการค้า」 5. สถาบันการแพทย์ระดับโรงพยาบาลตาม「พระราชบัญญัติการแพทย์」 มาตรา 3 วรรค 2 ข้อ 3
|
1 ครั้งขึ้นไป/ 1 เดือน
|
1 ครั้งขึ้นไป/ 2 เดือน
|
6. สถานประกอบการด้านอาหารตาม「พระราชบัญญัติด้านสุขาภิบาลอาหาร」 มาตรา 2 ข้อ 12 (เฉพาะกรณีเสริฟอาหารอย่างต่อเนื่องมากกว่า 100 คนต่อครั้ง) 6(2). สถานประกอบการธุรกิจบริการอาหารที่บริการจัดเตรียมอาหารที่มีพื้นที่รวม 300 ตารางเมตรขึ้นไปตาม「พระราชบัญญัติการบังคับใช้ด้านสุขาภิบาลอาหาร」 มาตรา 21 ข้อ 8 หัวข้อ จ. 7. หอพักตาม「พระราชบัญญัติบังคับใช้ในการควบคุมอาคาร」 เอกสารแนบตาราง 1 ข้อ 2 หัวข้อ ง. 7(2). ที่พักร่วมกัน (เฉพาะกรณีบรรจุคนได้ 50 คนขึ้นไป) ตาม「พระราชบัญญัติบังคับใช้ใน การป้องกันอัคคีภัย ติดตั้งและจัดการอุปกรณ์ดับเพลิง และการจัดการความปลอดภัย」 เอกสารแนบตาราง 2 ข้อ 8 หัวข้อ ก. 8. โรงแสดงละคร (เฉพาะกรณีมี 300 ที่นั่งขึ้นไป) ตาม「พระราชบัญญัติการแสดงสาธารณะ」 9. สถานศึกษาตาม「พระราชบัญญัติการศึกษาของประถมศึกษาและมัธยมศึกษา」 มาตรา 2 และ「พระราชบัญญัติการศึกษาของมัธยมศึกษาตอนปลาย」 มาตรา 2 10. สถาบันสอนพิเศษโรงเรียนที่มีพื้นที่ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไปตาม「พระราชบัญญัติจัดตั้ง·ดำเนินการสถาบันสอนพิเศษและการสอนนอกหลักสูตร」 11. อาคารสำนักงานและอาคารเอนกประสงค์ที่มีพื้นที่ 2,000 ตารางเมตรขึ้น 12. สถานรับเลี้ยงเด็กตาม「พระราชบัญญัติการดูแลเด็กเล็ก」และ โรงเรียนอนุบาลตาม「พระราชบัญญัติการศึกษาของเด็ก」(เฉพาะสถานรับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนอนุบาลที่รองรับจำนวน 50 คนขึ้นไป)
|
1 ครั้งขึ้นไป/ 2 เดือน
|
1 ครั้งขึ้นไป/ 3 เดือน
|
13. ที่พักอาศัยรวมกัน (เฉพาะกรณีที่มี 300 ครัวเรือนอาศัยอยู่ขึ้นไป) ตาม 「พระราชบัญญัติการจัดการที่พักอาศัยรวมกัน」
|
1 ครั้งขึ้นไป/ 3 เดือน
|
1 ครั้งขึ้นไป/ 6 เดือน
|
การกักกันโรค
คุณสมบัติของการกักกันโรค
- ผู้อำนวยการการกักกันโรคจะต้องดำเนินการตรวจกักกันโรคตามสถานการณ์ดังต่อไปนี้ (「พระราชบัญญัติการกักกันโรค」 มาตรา 12 วรรค 1).
· ความคืบหน้าและสถานะปัจจุบันด้านสุขอนามัยของยานพาหนะขนส่งและสัมภาระ
· สถานะของผู้เข้าออกประเทศด้านการติดเชื้อ·ปัจจัยเสี่ยงของการกักกันโรคติดต่อ และเหตุการณ์เกี่ยวกับการจัดการเพื่อป้องกันโรค
· สถานการณ์ของการเก็บรักษาอาหารของยานพาหนะขนส่ง
· การปรากฏของรูปแบบสื่อกลางของโรคติดต่อและสถานการณ์การแพร่เชื้อ
※ อย่างไรก็ตาม กรณีรถยนต์ สามารถละเว้นรายละเอียดเกี่ยวข้องกับการจัดการและป้องกันโรคติดต่อกักกันสำหรับผู้โดยสาร ลูกเรือ และผู้เข้าออกด้วยการเดินเท้าได้ (「พระราชบัญญัติการกักกันโรค」 มาตรา 12 วรรค 1 ที่มา).
- บุคคล ยานพาหนะขนส่ง และสัมภาระ (รวมถึง ตู้คอนเทนเนอร์ในยานพาหนะขนส่ง สินค้าที่เตรียมไว้ในยานพาหนะขนส่ง สินค้าสิ้นเปลือง และของใช้ส่วนตัว)ที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ จะต้องรับการตรวจกักกันโรค (「พระราชบัญญัติการกักกันโรค」 มาตรา 6 วรรค 1, 「พระราชบัญญัติการบังคับใช้ด้านการกักกันโรค」 มาตรา 2 และ 「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการกักกันโรค」 มาตรา 2-2).
· ทุกคนที่เป็นผู้โดยสารและลูกเรือ ฯลฯ ที่เดินทางเข้าออกจากประเทศเกาหลี ยานพาหนะขนส่งและสัมภาระดังต่อไปนี้ (อย่างไรก็ตาม ยกเว้นสิ่งของที่ขนส่งประเภทแก๊สและของเหลวในถังของยานพาหนะขนส่ง)
√ สัมภาระในยานพาหนะขนส่งที่ได้รับการยืนยันหรือน่าสงสัยว่าอยู่ในรูปแบบสื่อกลางของโรคติดต่อ
√ สิ่งของที่อยู่ในการครอบครองของผู้ที่ได้รับการยืนยันหรือน่าสงสัยว่าเป็นผู้ป่วยของการกักกันโรคติดต่อ ผู้ป่วยที่ถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้ป่วยของการกักกันโรคติดต่อ และผู้แพร่เชื้อ (ต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้ป่วยของการกักกันโรคติดต่อ ฯลฯ”)
√ สัมภาระอื่น ๆ ที่ได้รับการยืนยันจากผู้อำนวยการการกักกันโรคว่าจำเป็นต้องได้รับการการตรวจกักกันโรค
· บุคคล ยานพาหนะขนส่ง และสัมภาระที่สัมผัสกับยานพาหนะขนส่งข้างต้นและมีสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้
√ เหตุผลเนื่องจากเป็นการป้องกันอาชญากรรม การสอบสวน หรือจับกุมผู้ต้องสงสัย
√ เหตุผลเนื่องจากการกู้ภัยจากเหตุอันตรายฉุกเฉิน
สถานที่และช่วงเวลาการกักกันโรค
- สถานที่การกักกันโรค
· สถานที่กักกันโรคจะถูกกำหนดขึ้นผ่านการพิจารณาของผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลีและผู้อำนวยการองค์การการปกครองที่เกี่ยวข้อง (「พระราชบัญญัติการกักกันโรค」 มาตรา 10 วรรค 1).
· ผู้เข้าออกประเทศและยานพาหนะขนส่งที่ต้องการกักกันโรคจะต้องเดินทางมายังสถานที่กักกันโรคและรับการตรวจกักกันโรค (「พระราชบัญญัติการกักกันโรค」 มาตรา 10 วรรค 2 เนื้อหา).
※ อย่างไรก็ตาม กรณีไม่สามารถรับการตรวจกักกันโรค หรือการตรวจสอบกักกันโรคให้เสร็จสิ้นเป็นไปได้ยากในสถานที่กักกันโรค สามารถรับการตรวจกักกันโรคได้ที่ท่าเรือกักกันโรคและพื้นที่กักกันโรคใน 「กฎข้อบังคับของโครงสร้างกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลีและองค์กรในเครือ」เอกสารแนบตารางที่ 2) (「พระราชบัญญัติการกักกันโรค」 มาตรา 10 วรรค 2, 「พระราชบัญญัติการใช้การกักกันโรค」 มาตรา 5 วรรค 2 และ 「กฎข้อบังคับของโครงสร้างกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลีและองค์กรในเครือ」 มาตรา 23 วรรค 5 ที่มา).
· กรณีแม้ไม่สามารถดำเนินการกักกันโรคได้ตามสถานที่ข้างต้น แต่สามารถรับการตรวจกักกันโรคได้ในสถานที่ที่ผู้อำนวยการการกักกันโรคเป็นผู้กำหนด (「พระราชบัญญัติการกักกันโรค」 มาตรา 10 วรรค 3 และ 「พระราชบัญญัติการใช้การกักกันโรค」 มาตรา 5 วรรค 3).
√ กรณีมีเหตุสุดวิสัย เช่น การจับกุมผู้กระทำผิด การกลับมาสวามิภักดิ์ อุบัติเหตุ และผู้ป่วยฉุกเฉิน
√ กรณีพบว่ากักกันโรคในสถานที่กักกันโรคได้ยาก เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย
√ กรณีพบว่ากักกันโรคในสถานที่กักกันโรคเป็นไปได้ยาก เนื่องจากความแตกต่างของระดับน้ำขึ้นน้ำลง หรือความสูงของคลื่น
√ กรณียานพาหนะขนส่งไม่สามารถเทียบท่า·ลงจอด หรือมาถึงสถานที่กักกันโรค เนื่องจากยานพาหนะขนส่งชำรุดขัดข้อง ฯลฯ
√ กรณีพบว่ากักกันโรคในสถานที่กักกันโรคเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่กักกันโรคไม่มีวิธีการเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่กักกันโรค
√ กรณีจำเป็นต้องกักกันโรคทันทีเมื่อเรือเดินทางมาถึง เช่น การบรรทุกและขนส่งฉุกเฉินของสัมภาระ ฯลฯ
√ กรณีอื่น ๆ ที่ผู้อำนวยการการกักกันโรคเห็นว่ามีเหตุผลที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
- ช่วงเวลาการกักกันโรค
· ผู้อำนวยการการกักกันโรคจะดำเนินการตรวจกักกันโรคทันที เมื่อบุคคลหรือสิ่งของที่มีคุณสมบัติสำหรับการตรวจกักกันโรคมาถึงยังสถานที่กักกันโรค (「พระราชบัญญัติการกักกันโรค」 มาตรา 11 วรรค 2 เนื้อหา).
· อย่างไรก็ตาม หากมีสาเหตุที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งทำให้ไม่สามารถตรวจกักกันโรคโดยทันทีตามกรณีดังต่อไปนี้ จะสามารถขนถ่ายผู้โดยสาร ลูกเรือ และสัมภาระออกจากเครื่องได้โดยมีเงื่อนไขให้รอหรือกักตัวในสถานที่กักกันโรค (「พระราชบัญญัติการกักกันโรค」 มาตรา 11 วรรค 2 และ 「พระราชบัญญัติการใช้การกักกันโรค」 มาตรา 5-2 ที่มา).
√ กรณีไม่สามารถดำเนินการตรวจกักกันโรคได้ตามปกติ เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ฯลฯ
√ กรณีผู้รับผิดชอบฝ่ายยานพาหนะขนส่งขอเลื่อนการตรวจกักกันโรค ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของยานพาหนะและผู้โดยสาร ฯลฯ
√ กรณีอื่น ๆ ที่ผู้อำนวยการการกักกันโรคยืนยันว่าเป็นการยากที่จะตรวจกักกันโรคทันที ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของข้าราชการด้านการกักกันโรค ฯลฯ
มาตรการกักกันโรค
- ผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลีสามารถดำเนินการตามรายละเอียดทั้งหมดหรือบางประการดังต่อไปนี้กับผู้ที่ติดเชื้อหรือผู้ที่น่าสงสัยว่ามีอาการติดเชื้อโรคติดต่อ ยานพาหนะขนส่งหรือสัมภาระที่เป็นตัวแพร่เชื้อ ยานพาหนะขนส่งหรือสัมภาระที่น่าสงสัยว่าเป็นตัวแพร่เชื้อ ยานพาหนะขนส่งหรือสัมภาระที่น่าสงสัยว่าเป็นแบบสื่อกลางของโรคติดต่อ เพื่อป้องกันการเข้ามาและการแพร่กระจายของโรคติดต่อ (「พระราชบัญญัติการกักกันโรค」 มาตรา 15 วรรค 1·วรรค 2·วรรค 3 และ มาตรา 2 ข้อ 5 และ 「พระราชบัญญัติการใช้การกักกันโรค」 มาตรา 10).
· เฝ้าระวังหรือกักตัวผู้ป่วยของการกักกันโรคติดต่อ ฯลฯ
· เฝ้าระวังหรือกักตัวผู้ที่สัมผัสกับโรคติดต่อ หรือผู้ที่สัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงของโรคติดต่อดังต่อไปนี้
√ ผู้ที่นั่งยานพาหนะขนส่งเดียวกับผู้ป่วยของการกักกันโรคติดต่อ ฯลฯ
√ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกับผู้ป่วยของการกักกันโรคติดต่อ ฯลฯ ในช่วงเวลาที่น่าสงสัยในการติดเชื้อโรคติดต่อ
· ฆ่าเชื้อ กำจัด หรือห้ามเคลื่อนย้ายสัมภาระที่แพร่เชื้อการปนเปื้อนหรือสงสัยว่ามีการปนเปื้อนเชื้อโรค
· ฆ่าเชื้อ สั่งห้ามใช้ หรือจำกัดสถานที่ที่แพร่เชื้อการปนเปื้อนหรือสงสัยว่ามีการปนเปื้อนเชื้อโรค
· ตรวจยานพาหนะหรือสัมภาระการขนส่งที่เห็นชอบว่ามีความจำเป็นต้องตรวจสอบสถานะการปนเปื้อนของเชื้อโรคติดต่อ
· ออกคำสั่งให้หัวหน้าฝ่ายยานพาหนะขนส่ง ผู้ครอบครองสัมภาระ หรือผู้จัดการฆ่าเชื้อยานพาหนะหรือสัมภาระการขนส่งที่เป็นสื่อกลางของโรคติดต่อหรือน่าสงสัยว่าเป็นสื่อกลางของโรคติดต่อเพื่อกำจัดสื่อกลางของโรคติดต่อ
· ตรวจและรักษาโรคให้ผู้ที่ได้รับพิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อโรคติดต่อ
· การฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้ผู้ที่มีความจำเป็นต้องป้องกันโรคติดต่อ
การเฝ้าระวังโรคติดต่อ
แนวคิดของการเฝ้าระวังโรคติดต่อ
- การเฝ้าระวังโรคติดต่อ หมายถึง เป็นกระบวนการโดยรวมที่ใช้สำหรับการป้องกันและจัดการโรคติดต่อโดยการรวบรวม วิเคราะห์ ตีความข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวกับการพบเจอโรคติดต่อและเอกสารที่เกี่ยวกับการแพร่เชื้อและพาหะนำโรคอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และเผยแพร่ผลลัพธ์ดังกล่าวให้แก่บุคคลที่ต้องการในช่วงเวลานั้น ๆ (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 2 ข้อ 16).
- การเฝ้าระวังเฉพาะกลุ่มเฉพาะพื้นที่ หมายถึง การดำเนินการตรวจสอบทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอเกี่ยวกับความถี่การเกิดโรคของผู้ป่วยโรคติดต่อที่พบบ่อย ส่งผลให้เกิดความลำบากในการตรวจสอบจึงได้กำหนดสถาบันเฝ้าระวังขึ้นมาเพื่อเฝ้าระวัง (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 2 ข้อ 16-2).
- วัตถุประสงค์ของการเฝ้าระวัง คือ เพื่อคาดการขนาดของปัญหาที่เกิดจากโรคติดต่อ สังเกตแนวโน้มการเกิดโรคติดต่อ เพื่อยืนยันการพบเจอและระบาดแบบกลุ่มของโรคติดต่อ และค้นหาปัญหาใหม่โดยนำมาประยุกต์ใช้กับกิจกรรมป้องกันและจัดการ (กรมควบคุมโรคแห่งเกาหลี, 『แนวทางการจัดการโรคติดต่อปี 2022』 หน้า 18).
ระบบการเฝ้าระวังโรคติดต่อ
- ประเภทของระบบการเฝ้าระวังโรคติดต่อมีดังต่อไปนี้ (อ้างอิงจากกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลี, 『แนวทางการจัดการโรคติดต่อปี 2022』 หน้า 18 และ 20).
ประเภท
|
เนื้อหา
|
การเฝ้าระวังโรคติดต่อ (Infectious disease Surveillance)
|
√ ระบบการเฝ้าระวังที่แพทย์ ทันตแพทย์ แพทย์แผนโบราณ หัวหน้าสถาบันการแพทย์ ผู้บังคับบัญชาการทหาร (แพทย์ทหาร) และหัวหน้าสถาบันตรวจสอบการแพร่เชื้อของโรคติดต่อทุกรายมีหน้าที่รายงาน √ โรคติดต่อระดับ 1 ถึงระดับ 3
|
การเฝ้าระวังเฉพาะกลุ่มเฉพาะพื้นที่ (Sentinel Surveillance)
|
√ ระบบการเฝ้าระวังที่กำหนดสถาบันการเฝ้าระวังเฉพาะกลุ่มเฉพาะพื้นที่ และดำเนินการจากการรับแจ้งผ่านสถาบันที่กำหนด √ โรคติดต่อระดับ 4
|
การเฝ้าระวังเพิ่มเติม (Supplementary Surveillance)
|
ระบบการเฝ้าระวังที่ส่งเสริมระบบการเฝ้าระวังโรคติดต่อ โดยที่ไม่มีโรคติดต่อที่ระบุไว้ในกฎหมายรวมอยู่ด้วย แต่ได้รวมโรคติดต่อที่มีความจำเป็นต้องติดตามเกี่ยวกับสถานการณ์พบเจอและแนวโน้มเพื่อการรับมือในเชิงรุกได้อย่างรวดเร็ว
|
- ผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลีสามารถกำหนดสถาบันเฝ้าระวังเฉพาะกลุ่มเฉพาะพื้นที่ตามคำแนะนำจากผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองตนเองพิเศษ นครปกครองตนเองพิเศษ และผู้ว่าราชการเมือง·จังหวัดจากบรรดาสถาบัน·สิ่งอำนวยความสะดวก·องค์กรหรือนิติบุคคลตามการจำแนกประเภทโรคติดต่อสำหรับการเฝ้าระวังเฉพาะกลุ่มเฉพาะพื้นที่ดังต่อไปนี้ตาม「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 16 วรรค 1 (「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 14 วรรค 1).
· ไข้หวัดใหญ่: สถาบัน·สิ่งอำนวยความสะดวก·องค์กรหรือนิติบุคคลดังต่อไปนี้
√ ศูนย์สุขภาพและการแพทย์จากบรรดาสถานีอนามัยตาม「พระราชบัญญัติสาธารณสุขในท้องถิ่น」 มาตรา 10
√ สถาบันวิจัยสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมตาม「พระราชบัญญัติสถาบันวิจัยสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม」 มาตรา 2
√ สถาบันที่แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ชันสูตรใช้ทำงานเต็มเวลาจากบรรดาสถาบันการแพทย์ (ต่อไปนี้เรียกว่า “สถาบันการแพทย์”) ตาม「พระราชบัญญัติการแพทย์」 มาตรา 3
√ สถาบันที่แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ชันสูตรใช้ทำงานเต็มเวลาจากบรรดาสถาบันที่ได้รับมอบหมายจากรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการแพทย์ ฯลฯ ให้ดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการตรวจร่างกาย
√ สถาบันการแพทย์ที่มีแผนกกุมารเวช แผนกอายุรเวช แผนกเวชศาสตร์ครอบครัว แผนกโสต ศอ นาสิกจากบรรดาสถาบันการแพทย์
· โรคติดต่อที่เป็นโรคติดต่อจากเชื้อปรสิตจากบรรดาโรคติดต่อระดับ 4 : สถาบัน·สิ่งอำนวยความสะดวก·องค์กรหรือนิติบุคคลดังต่อไปนี้
√ สถานีอนามัยตาม「พระราชบัญญัติการบังคับใช้สาธารณสุขในท้องถิ่น」 มาตรา 10
√ สถาบันวิจัยสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมตาม「พระราชบัญญัติสถาบันวิจัยสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม」 มาตรา 2
√ สถาบันที่แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ชันสูตรใช้ทำงานเต็มเวลาจากบรรดาสถาบันการแพทย์ตาม「พระราชบัญญัติการแพทย์」 มาตรา 3
√ สถาบันที่แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ชันสูตรใช้ทำงานเต็มเวลาจากบรรดาสถาบันที่ได้รับมอบหมายจากรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการแพทย์ ฯลฯ ให้ดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการตรวจร่างกาย
√ คลินิก·โรงพยาบาล และโรงพยาบาลขนาดใหญ่จากบรรดาสถาบันการแพทย์
√ สมาคมวิชาการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์การวิจัยและเผยแพร่ความรู้ด้านวิชาการเกี่ยวกับโรคติดต่อจากเชื้อปรสิต
√ องค์การที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ป้องกันและจัดการกับโรคติดต่อจากเชื้อปรสิต
· โรคติดต่อระดับ 4 (ยกเว้นไข้หวัดใหญ่และโรคติดต่อจากเชื้อปรสิต): สถาบัน·สิ่งอำนวยความสะดวก·องค์กรหรือนิติบุคคลดังต่อไปนี้
√ สถานีอนามัยตาม「พระราชบัญญัติการบังคับใช้สาธารณสุขในท้องถิ่น」 มาตรา 10
√ สถาบันวิจัยสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมตาม「พระราชบัญญัติสถาบันวิจัยสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม」 มาตรา 2
√ สถาบันที่แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ชันสูตรใช้ทำงานเต็มเวลาจากบรรดาสถาบันการแพทย์ตาม「พระราชบัญญัติการแพทย์」 มาตรา 3
√ สถาบันที่แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ชันสูตรใช้ทำงานเต็มเวลาจากบรรดาสถาบันที่ได้รับมอบหมายจากรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการแพทย์ ฯลฯ ให้ดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการตรวจร่างกาย
√ คลินิก·โรงพยาบาล และโรงพยาบาลขนาดใหญ่จากบรรดาสถาบันการแพทย์
√ สมาคมวิชาการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์การวิจัยและเผยแพร่ความรู้ด้านวิชาการเกี่ยวกับโรคติดต่อระดับ 4
- ผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลี ผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองตนเองพิเศษ นครปกครองตนเองพิเศษ ผู้ว่าราชการเมือง·จังหวัด หรือนายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขตจะต้องเรียกขอความร่วมมือที่จำเป็นในการป้องกันและจัดการโรคติดต่อต่อหัวหน้าสถาบันเฝ้าระวังเฉพาะกลุ่มเฉพาะพื้นที่ยื่นเอกสารที่จำเป็นเกี่ยวกับการเฝ้าระวังเฉพาะกลุ่มเฉพาะพื้นที่ของโรคติดต่อ โดยสถาบันเฝ้าระวังเฉพาะกลุ่มเฉพาะพื้นที่จะต้องปฎิบัติตามข้างต้นหากไม่มีเหตุผลพิเศษ (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 16 วรรค 2).
- ผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลี ผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองตนเองพิเศษ นครปกครองตนเองพิเศษ ผู้ว่าราชการเมือง·จังหวัด หรือนายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขตจะต้องนำข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสาธารณสุขที่รวบรวมไว้ไปนำเสนอให้แก่สถาบัน·องค์กร·สิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง หรือประชาชน (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 16 วรรค 3).
- กรณีผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลีเห็นชอบว่ามีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่ต้องรับข้อมูลเกี่ยวกับการพบเจอโรคติดต่อหรือความเป็นไปได้ของการระบาด สามารถเรียกขอข้อมูลจากหัวหน้าศูนย์บริการตรวจสอบและประเมินผลการประกันสุขภาพและศูนย์บริการประกันสุขภาพแห่งชาติได้ตาม「พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ」 โดยหัวหน้าของสถาบันที่ได้รับการเรียกขอจะต้องปฏิบัติตามข้างต้นหากไร้เหตุผลอันสมควร (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 16 วรรค 7·วรรค 8 และ 「พระราชบัญญัติการบังคับใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 10).