การป้องกันโรคติดต่อ
มาตรการป้องกันโรคติดต่อ
- ผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลี ผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองตนเองพิเศษ นายกเทศมนตรีนครปกครองตนเองพิเศษ ผู้ว่าราชการเมือง·จังหวัด หรือนายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขตจะต้องดำเนินมาตรการป้องกันโรคติดต่อดังต่อไปนี้ทั้งหมดหรือดำเนินบางมาตรการที่จำเป็นสำหรับแต่ละกรณีเพื่อป้องกันโรคติดต่อ (「พระราชบัญญัติขั้นพื้นฐานว่าด้วยการสาธารณสุขและการรักษาทางการแพทย์」 มาตรา 40 และ 「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 49 วรรค 1·วรรค 2).
· ปิดกั้นการจราจรทั้งหมดหรือบางส่วนไปยังพื้นที่ควบคุมดูแล (ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า)
· จำกัดหรือห้ามไปที่สาธารณะ ชุมนุม จัดพิธีการ หรือการรวมตัวหลายคน (ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสามารถจำกัดหรือห้ามเพื่อเป็นการป้องกันโรคติดต่อ)
· ออกคำสั่งให้ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคระบาด เช่น ทำรายชื่อผู้เดินทางเข้ามา การสวมหน้ากากอนามัย ฯลฯ สำหรับผู้จัดการ·ผู้ประกอบการและผู้ใช้ของสถานที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคติดต่อ
· ออกคำสั่งให้ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคระบาด เช่น สวมใส่หน้ากากอนามัย ฯลฯ ให้ผู้ใช้พาหนะเดินทางอย่างรถบัส·รถไฟ·เรือ·เครื่องบิน ฯลฯ ที่กังวลเกี่ยวกับการแพร่กระจายของโรคติดต่อ
· ออกคำสั่งให้ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคระบาด เช่น สวมใส่หน้ากากอนามัย ฯลฯ ตามช่วงเวลาและพื้นที่ที่กังวลเกี่ยวกับการแพร่กระจายของโรคติดต่อ
· ดำเนินการตรวจร่างกาย ชันสูตรศพ หรือการผ่าศพ
· ห้ามขายหรือรับอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อของโรคติดต่อ กำจัดอาหารเหล่านั้น หรือออกคำสั่งจัดการนอกเหนือจากนี้ตามความจำเป็น
· ออกคำสั่งมาตรการป้องกันโรคสำหรับบรรดาบุคคลที่เข้าร่วมการฆ่าสัตว์ หรือผู้ที่สัมผัสโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนเพื่อป้องกันโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน
· จำกัด·ห้ามครอบครอง·การเคลื่อนย้ายสิ่งของที่เป็นพาหะในการแพร่เชื้อ หรือกำจัดสิ่งของดังกล่าว เผาหรือออกคำสั่งจัดการนอกเหนือจากนี้ตามความจำเป็น (ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า)
· กำหนดให้มีแพทย์มาประจำอยู่ในพาหนะขนส่งเรือ·เครื่องบิน·รถไฟ ฯลฯ สถานที่ทำงาน หรือ สถานที่ต่าง ๆ ที่มีผู้คนจำนวนมาก หรือออกคำสั่งให้ติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความจำเป็นต่อการป้องกันโรคติดต่อ
· ออกคำสั่งให้ฆ่าเชื้อสิ่งอำนวยความสะดวกหรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข หรือดำเนินมาตรการที่จำเป็น หรือห้ามสร้างใหม่·ปรับปรุง·เปลี่ยนแปลง·ยกเลิก หรือใช้งานระบบการจ่ายน้ำประปา ท่อระบายน้ำเสีย บ่อน้ำ ที่กำจัดขยะ ห้องน้ำ (ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า ต้องจัดเตรียมน้ำดื่มแยกต่างหากในช่วงระยะเวลาห้าม)
· ออกคำสั่งให้กำจัดหนู แมลงศัตรูพืช หรือสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคอื่น ๆ หรือให้ติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการกำจัด
· จำกัดหรือห้ามการตกปลา·ว่ายน้ำ หรือใช้บ่อน้ำบางแห่งในสถานที่ที่กำหนด (ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า ต้องจัดเตรียมน้ำดื่มแยกต่างหากในช่วงระยะเวลาห้าม)
· ห้ามจับสัตว์ที่เป็นตัวกลางของพาหะนำโรค หรือการแพร่พันธุ์ (ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า)
· ระดมแพทย์·ผู้ประกอบการด้านการแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ที่จำเป็นในช่วงที่มีการระบาดของโรคติดต่อ
· ระดมเตียงผู้ป่วยของสถาบันการแพทย์ สถาบันฝึกอบรม·ที่พัก ฯลฯ ในช่วงที่มีการระบาดของโรคติดต่อ
· ออกคำสั่งฆ่าเชื้อหรือจัดการนอกเหนือจากนี้ตามความจำเป็น สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกหรือสถานที่ที่แพร่เชื่อโรคติดต่อหรือสงสัยว่ามีอาการของโรคติดต่อ
· เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือกักตัวผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้อโรคติดต่อในสถานที่ที่เหมาะสมและช่วงระยะเวลาตามกำหนด
※ ผู้ที่ฝ่าฝืนการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือกักตัวในสถานที่ที่เหมาะสมและช่วงระยะเวลาตามกำหนด บุคคลนั้นจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 10 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 79-3 ข้อ 5).
- ผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองตนเองพิเศษ หรือนายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขตสามารถออกคำสั่งต่อผู้จัดการ·ผู้ประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคติดต่อที่ไม่ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคระบาด เช่น จัดทำรายชื่อผู้เดินทางเข้ามา สวมใส่หน้ากากอนามัย ฯลฯ ให้ปิดหรือระงับการประกอบการในสถานที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวเป็นระยะเวลาสูงสุด 3 เดือน (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 49 วรรค 3 เนื้อหา).
※ อย่างไรก็ตาม กรณีบุคคลที่ได้รับคำสั่งให้ระงับการประกอบการแต่ยังคงประกอบกิจการในระยะเวลาระงับการประกอบการ จะต้องสั่งให้ปิดสถานที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าว (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 49 วรรค 3 ที่มา).
※ หากผู้จัดการ·ผู้ประกอบการที่ได้รับคำสั่งให้ปิดหรือระงับการประกอบการของสถานที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างไร้เหตุผลอันสมควร จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว กรณีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งปิดโดยไม่มีเหตุที่เหมาะสม บุคคลจะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 20 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 49 วรรค 4 และ มาตรา 79 ข้อ 3-3).
※ ผู้ว่าราชการเมือง·จังหวัด หรือนายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขตที่ออกคำสั่งให้ปิดสถานที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถตัดสินสถานะการปิดกิจการผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการท้องถิ่นของ「พระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดการความปลอดภัยจากภัยพิบัติ」 มาตรา 11 ในกรณีหมดความจำเป็นในการปิดสถานที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของการแจ้งเตือนวิกฤต หรือแนวทางการป้องกันโรคระบาด (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 49 วรรค 6).
- นายกเทศมนตรี·ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขตสามารถให้เจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้เพื่อปิดสถานที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในกรณีผู้จัดการ·ผู้ประกอบการยังคงประกอบกิจการต่อไปทั้ง ๆที่มีคำสั่งให้ปิดกิจการตามข้างต้น (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 49 วรรค 5).
· ถอดป้ายหรือประกาศต่าง ๆ ของสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าว
· เขียนข้อความลงในกระทู้ ฯลฯ ระบุความจริงที่ว่าสถานที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวได้ปิดกิจการลงตามคำสั่งปิดสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าว
มาตรฐานค่าปรับการฝ่าฝืนแนวทางการกักกัน
- กรณีผู้จัดการ ผู้บริหาร และผู้ใช้ทำการฝ่าฝืนจะต้องชำระค่าปรับหากฝ่าฝืนตามประเภทดังต่อไปนี้(「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 83 วรรค 2·วรรค 4 ข้อ 1, มาตรา 49 วรรค 1 ข้อ 2-2·2-3, 「พระราชบัญญัติบังคับใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 33 และตารางแนบที่ 3 ข้อ 2 (อา)·(จา).
คุณสมบัติ
|
พฤติกรรมการฝ่าฝืน
|
ค่าปรับ
|
ผู้จัดการ·ผู้บริหาร(เจ้าของกิจการ ฯลฯ) (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 83 วรรค 2)
|
กรณีผู้จัดการ·ผู้ประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคติดต่อที่ไม่ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคระบาดเช่น จัดทำรายชื่อผู้เดินทางเข้ามา สวมใส่หน้ากากอนามัย ฯลฯ ให้ปิดหรือระงับการประกอบการในสถานที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวก
|
√ ฝ่าฝืนครั้งที่ 1: 500,000 วอน √ ฝ่าฝืนครั้งที่ 2: 1,000,000 ล้านวอน วอน √ ฝ่าฝืนครั้งที่ 3 ขึ้นไป: 2,000,000 ล้านวอน
|
ผู้ใช้บริการ/งาน (ลูกค้า) (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 83 วรรค 4 ข้อ 1)
|
√ กรณีผู้ใช้บริการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคติดต่อที่ไม่ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคระบาดเช่น จัดทำรายชื่อผู้เดินทางเข้ามา สวมใส่หน้ากากอนามัย ฯลฯ ให้ปิดหรือระงับการประกอบการในสถานที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวก √ กรณีไม่ปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคระบาดเช่น สวมใส่หน้ากากอนามัย ฯลฯ ให้ผู้ใช้พาหนะเดินทางอย่างรถบัส·รถไฟ·เรือ·เครื่องบิน ฯลฯที่กังวลเกี่ยวกับการแพร่กระจายของโรคติดต่อ
|
√ ฝ่าฝืนครั้งที่ 1: 100,000 วอน √ ฝ่าฝืนครั้งที่ 2 ขึ้นไป: 100,000วอน
|
กิจกรรมป้องกันโรคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกักกันโรค ฯลฯ
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกักกันโรค
- ผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลี และผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองตนเองพิเศษ·นายกเทศมนตรีนครปกครองตนเองพิเศษ·ผู้ว่าราชการเมือง·จังหวัดจะต้องแต่งตั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกักกันโรคที่มีหน้าที่ป้องกันและกักกันโรคติดต่อ (ข้าราชการระดับ 4 ขึ้นไปที่มีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในด้านโรคติดต่อ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกักกันโรคในเครือจังหวัดปกครองตนเองพิเศษ·นครปกครองตนเองพิเศษ·เมือง·อำเภอ·เขต จะต้องเป็นข้าราชการระดับ 5 ขึ้นไปที่มีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในด้านโรคติดต่อ) จากเจ้าหน้าที่ข้าราชการในเครือ (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 60 วรรค 1 และ「พระราชบัญญัติการบังคับใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 25 วรรค 1 เนื้อหา).
※ อย่างไรก็ตาม กรณีมีความจำเป็นต้องจัดการกับงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและกักกันโรคติดต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองตนเองพิเศษ·นายกเทศมนตรีนครปกครองตนเองพิเศษ·นายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขตสามารถแต่งตั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกักกันโรคจากข้าราชการในเครือได้ (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 60 วรรค 1 ที่มา).
- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกักกันโรคมีหน้าที่ดังต่อไปนี้ตามคำสั่งของหัวหน้าองค์กรในเครือ (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 60 วรรค 2 และ มาตรา 4 วรรค 2 ข้อ 1 ถึงข้อ 7 เนื้อหา).
· ดำเนินมาตรการป้องกันและกักกันโรคติดต่อ
· รักษาและปกป้องผู้ป่วยโรคติดต่อ ฯลฯ
· วางแผนและดำเนินการแผนการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดต่อ
· อบรมและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโรคติดต่อ
· รวบรวม·วิเคราะห์ และจัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดต่อ
· สำรวจ·วิจัยเกี่ยวกับโรคติดต่อ
· รวบรวม·ตรวจสอบ·อนุรักษ์·จัดการ การแพร่เชื้อของโรคติดต่อ (รวมถึง ตัวอย่างเลือด น้ำลาย กลุ่มเซลล์ ของเหลวในร้างกาย ฯลฯ เพื่อตรวจสอบการแพร่เชื้อของโรคติดต่อ) และตรวจสอบการดื้อยา
※ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกักกันโรคในเครือกรมควบคุมโรคแห่งเกาหมีหน้าที่ฝึกอบรมบุคลากรมืออาชีพในการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ ฯลฯ (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 60 วรรค 2 ที่มา)
- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกักกันโรคจะมีอำนาจดังต่อไปนี้ในการดำเนินการ ณ พื้นที่ที่พบการระบาดของโรคติด เช่น ดำเนินมาตรการป้องกันและกักกันโรคติดต่อ จำกัดเส้นทางการสัญจรและอพยพประชาชนเพื่อการดูแลรักษาทางการแพทย์ของผู้ป่วยโรคติดต่อ ฯลฯ กำจัด·เผาอาหาร·สิ่งของ ฯลฯ ที่เป็นพาหะของโรคติดต่อ มอบหมายหน้าที่และ อุปกรณ์การกักกันโรค ฯลฯ สำหรับบุคลากรการจัดการโรคติดต่อ เช่น บุคลากรการแพทย์ ฯลฯ ในกรณีมีความจำเป็นที่ต้องรับมือเร่งด่วนเนื่องจากโรคระบาดเข้ามาในประเทศหรือคาดว่าจะเกิดการระบาด (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 60 วรรค 3 และ 「พระราชบัญญัติการบังคับใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 25 วรรค 2).
· ดำเนินมาตรการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือมาตรการกักตัวสำหรับผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้อโรคติดต่อในสถานที่ที่เหมาะสมและช่วงระยะเวลาตามกำหนด
· เชื้อหรือดำเนินมาตรการอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นเกี่ยวกับสถานที่หรือตึกที่ปนเปื้อนเชื้อโรคติดต่อ
· ป้องกันการทำความสะอาดในสถานที่ที่กำหนด หรือออกมาตรการสั่งให้ทิ้งสิ่งปฏิกูลในสถานที่ที่กำหนด
· ดำเนินมาตรการป้องกันสำหรับบรรดาผู้ฆ่าสัตว์ หรือผู้ที่สัมผัสโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนเพื่อป้องกันโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน
กรรมการกักกันโรค
- หากมีความจำเป็นต้องป้องกันโรคติดต่อ ผู้ว่าจังหวัดปกครองตนเองพิเศษ นครปกครองตนเองพิเศษ และผู้ว่าราชการเมือง·จังหวัดจะมอบหน้าที่เกี่ยวกับการกักกันโรคให้กรรมการกักกันโรคจากบรรดาข้าราชการในเครือที่รับราชการด้านสุขอนามัย โดยจะสามารถกักกันพาหนะขนส่ง ฯลฯ ได้เมื่อมีความจำเป็น (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 61 วรรค 1 และ 「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 43 วรรค 1).
- กรรมการกักกันโรคสามารถขึ้นพาหนะขนส่ง ฯลฯ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการข้างต้นและดำเนินการกักกันโรคได้ (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 61 วรรค 2).
- หน้าที่ของกรรมการกักกันโรคมีดังต่อไปนี้ (「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 43 วรรค 2).
· หัวข้อเกี่ยวกับการสอบสวนทางระบาดวิทยา
· หัวข้อเกี่ยวกับการฆ่าเชื้อในสถานที่ปนเปื้อนเชื้อโรคติดต่อ
· หัวข้อเกี่ยวกับการติดตาม การรักษาในโรงพยาบาล และการเฝ้าระวังของผู้ป่วยโรคติดต่อ ฯลฯ
· หัวข้อเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ทำลาย ฝัง หรือปิดสิ่งของและสถานที่ที่ปนเปื้อนเชื้อโรคติดต่อหรือสงสัยว่าติดเชื้อโรคติดต่อ
· หัวข้อเกี่ยวกับการประกาศของการกักกันโรค
กรรมการป้องกันโรค
- หากผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองตนเองพิเศษหรือนครปกครองตนเองพิเศษ และนายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขตเกิดการระบาดของโรคติดต่อหรือมีความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโรคติดต่อ สามารถมอบหน้าที่ให้มีกรรมการป้องกันโรคที่คอยรับผิดชอบเมืองปกครองตนเองพิเศษ หรือเมือง·อำเภอ·เขต (หมายถึง เขตปกครองตนเอง) อย่างไรก็ตาม สามารถมีกรรมการที่ได้รับค่าตอบแทนของเมืองปกครองตนเองพิเศษหรือนครปกครองตนเองพิเศษ และเมือง·อำเภอ·เขตได้ในอัตรา 1 คนต่อประชากร 20,000 คน (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 62 วรรค 1·วรรค 2).
- บุคคลที่จะได้รับการแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นกรรมการป้องกันโรคมีดังต่อไปนี้ (「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 44 วรรค 1).
· แพทย์ แพทย์แผนโบราณ สัตวแพทย์ เภสัชกร หรือพยาบาล
· บุคคลที่จบการศึกษาด้านสาธารณสุขที่สถาบันศึกษาตาม「พระราชบัญญัติการศึกษาของมัธยมศึกษาตอนปลาย」 มาตรา 2
· ข้าราชการในเครือที่ทำงานด้านสาธารณสุข
· บุคคลอื่น ๆ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ทางวิชาการและประสบการณ์มากมายในด้านสาธารณสุข
- หน้าที่ของกรรมการป้องกันโรคมีดังต่อไปนี้ (「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 44 วรรค 2).
· หัวข้อเกี่ยวกับการสอบสวนทางระบาดวิทยา
· หัวข้อเกี่ยวกับการรวบรวมและวินิจฉัยข้อมูลของการพบเจอโรคติดต่อ
· หัวข้อเกี่ยวกับการอบรมด้านสุขอนามัย
· หัวข้อเกี่ยวกับคำแนะนำทางเทคนิคสำหรับการจัดการและรักษาผู้ป่วยโรคติดต่อ
· หัวข้ออื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อการป้องกันโรคติดต่อ
สมาคมสุขภาพเกาหลี
- สมาคมสุขภาพเกาหลีมีขึ้นเพื่อดำเนินโครงการป้องกันสำหรับสำรวจและวิจัย ฯลฯ โรคติดต่อจากเชื้อปรสิต (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 63 วรรค 1).
การป้องกันโรคติดต่อเพิ่มเติม
- ผู้บังคับบัญชาการกองทัพบก·กองทัพเรือ·กองทัพอากาศ ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารภายใต้การควบคุมโดยตรงของกระทรวงกลาโหม และผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือตัวแทนโรงเรียน โรงพยาบาล สำนักงานราชการ บริษัท โรงแสดงละคร ปูชนียสถาน ยานพาหนะขนส่งเช่นเรือ·เครื่องบิน·รถไฟ ฯลฯ สำนักงานและสถานประกอบการต่าง ๆ ร้านอาหาร สถานที่ประกอบธุรกิจที่พักแรม หรือสถานที่ต่าง ๆ ที่มีการรวมตัวของคนหลายคน จะต้องฆ่าเชื้อหรือดำเนินมาตรการที่จำเป็น ในกรณีพบผู้ป่วยโรคติดต่อ ฯลฯ หรือมีความกังวลเกี่ยวกับพารพบโรคติดต่อ และจะต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมที่จำเป็นเพื่อป้องกันโรคติดต่อร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดปกครองตนเองพิเศษ หรือนายกเทศมนตรีเมือง·นายอำเภอ·นายกเทศมนตรีเขต (「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 12 วรรค 1 ข้อ 2, มาตรา 50 วรรค 1 และ 「พระราชบัญญัติว่าด้วยกฎหมายการใช้การป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 8 วรรค 2).
· ศูนย์พักฟื้นแม่หลังคลอดบุตรตาม「พระราชบัญญัติสาธารณสุขแม่และเด็ก」 มาตรา 2 ข้อ 10
· ธุรกิจโรงอาบน้ำ สถานบันเทิง ธุรกิจเสริมความงามตาม「พระราชบัญญัติการจัดการด้านสาธารณสุข」 มาตรา 2
- กรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือผู้อำนวยการด้านการศึกษา ออกคำสั่งเกี่ยวกับสถานศึกษาตาม「พระราชบัญญัติสาธารณสุขโรงเรียน」 มาตรา 2 ข้อ 2 ให้สถานศึกษาปิดกิจการหรือปิดโรงเรียนชั่วคราวตาม「พระราชบัญญัติการศึกษาของประถมศึกษาและมัธยมศึกษา」 มาตรา 64 เนื่องจากพบเจอโรคติดต่อ ฯลฯ หรือออกคำสั่งให้ปิดกิจการหรือปิดโรงเรียนตาม「พระราชบัญญัติการศึกษาของเด็ก」 มาตรา 31 จะต้องพิจารณาร่วมกับผู้อำนวยการกรมควบคุมโรคแห่งเกาหลี(「พระราชบัญญัติการป้องกันและจัดการโรคติดต่อ」 มาตรา 50 วรรค 2).