ภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์
ภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์คืออะไร
- “ภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์” หมายถึง ภาษีบำรุงท้องถิ่นที่เรียกเก็บภาษาีจากบุคคลที่ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ บัตรสมาชิกกอล์ฟ บัตรสมาชิกคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในท้องถิ่นนั้น ๆ (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 7 วรรค 1).
· หากได้รับมรดกตามกรณีดังต่อไปนี้จะต้องชำระภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์ (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 7 วรรค 1).
1. อสังหาริมทรัพย์
2. รถยนต์
3. เครื่องจักร
4. ต้นไม้
5. เครื่องบิน
6. เรือ
7. สิทธิการทำอุตสาหกรรมเหมืองแร่
8. สิทธิการทำประมง
9. สิทธิการเพาะเลี้ยงพืชและสัตว์น้ำ
10. บัตรสมาชิกกอล์ฟ
11. บัตรสมาชิกขี่ม้า
12. บัตรสมาชิกคอนโดมิเนียม
13. บัตรสมาชิกอำนวยความสะดวกด้านการกีฬา
14. สมาชิกเรือยอร์ช
การคำนวณภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์
วิธีการคำนวณภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์
- ภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์จะคิดจากมาตรฐานการเรียกเก็บภาษีมรดกตาม「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 10 และใช้อัตราภาษีตาม「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 11-15
· จำนวนภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์ = มาตรฐานการเรียกเก็บภาษี (มูลค่าทรัพย์สินที่ครอบครองในขณะนั้น) × อัตราภาษี
หลักเกณฑ์การเรียกเก็บภาษีของภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์
- หลักเกณฑ์การเรียกเก็บภาษีการได้มาคิดจากมูลค่า ณ เวลาที่ได้มา อย่างไรก็ตาม ในกรณีของการได้มาเป็นรายปี หลักเกณฑ์การเรียกเก็บภาษีการได้มาจะคิดจากจำนวนเงินรายปี (หมายถึงจำนวนเงินที่จ่ายจริงในแต่ละครั้ง รวมถึงเงินมัดจำตามสัญญาที่รวมอยู่ในจำนวนเงินที่ได้มาด้วย) (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 10)
หลักเกณฑ์การเรียกเก็บภาษีกรณีได้มาโดยไม่มีค่าตอบแทน
- ในกรณีของการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นๆ โดยไม่มีค่าตอบแทนให้มูลค่า ณ เวลาที่ได้มาเป็นมูลค่าที่รับรู้ตามปกติสำหรับการทำธุรกรรมอย่างอิสระระหว่างบุคคลจำนวนมากละไม่ได้ระบุในเวลาที่ได้มา (ราคาขาย ราคาประเมิน ราคาประมูลโดยสาธารณะ ฯลฯ) (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 10-2 วรรค 1)
หลักเกณฑ์การเรียกเก็บภาษีกรณีได้มาโดยทางมรดก
- ในกรณีของการสืบทอดและได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นๆ โดยนิติกรรมที่มีค่าตอบแทน (หมายถึงธุรกรรมที่มีการชำระราคาสำหรับการได้มา เช่น การขายหรือแลกเปลี่ยน) ให้คิดจากมูลค่า ณ เวลาที่ได้มาที่ชำระให้กับคู่สัญญาหรือบุคคลที่สามเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินนั้น หรือคิดจากราคาที่ได้มาจริงสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่ต้องชำระ (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 10-3 วรรค 1)
หลักเกณฑ์การเรียกเก็บภาษีกรณีได้มาครั้งแรก
- ในกรณีของการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นๆ ในครั้งแรก ให้คิดตามมูลค่า ณ เวลาที่ได้มา (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 10-4 วรรค 1)
หลักเกณฑ์การเรียกเก็บภาษีกรณีพิเศษสำหรับฐานภาษีกรณีได้มาโดยไม่มีค่าตอบแทน การได้มาโดยทางมรดก และการได้มาครั้งแรก
- โดยไม่คำนึงถึง「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 10-2 และ 10-3 เมื่อได้มาซึ่งยานพาหนะหรือเครื่องจักร ให้คิดตามมูลค่า ณ เวลาที่ได้มาตามประเภทต่อไปนี้ (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 10-5 วรรค 1)
· กรณีซื้อยานพาหนะหรือเครื่องจักรโดยไม่มีค่าตอบแทน: ราคาหลักเกณฑ์ปัจจุบันตา「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มมาตรา 4 วรรค 2
· การซื้อยานพาหนะหรือเครื่องจักรโดยมีค่าตอบแทน: ราคาซื้อขายจริง อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการประกาศราคาที่ได้มาจริงหรือมูลค่าที่แจ้งไว้หรือมูลค่าที่รายงานต่ำกว่าราคาหลักเกณฑ์ปัจจุบันตาม「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 4 วรรค 2 มูลค่าที่ เวลาที่ได้มาคือราคาหลักเกณฑ์ปัจจุบันในวรรคก่อน
· ในกรณีของการซื้อยานพาหนะโดยตรงที่ผลิตโดยผู้ผลิตรถยนต์: ราคาที่ซื้อจริง
หลักเกณฑ์การเรียกเก็บภาษีกรณีเห็นว่าเป็นการได้มา
- ในกรณีต่อไปนี้ ให้ถือว่ามูลค่า ณ เวลาที่ได้มาเป็นราคาที่ได้มาจริงซึ่งสอดคล้องกับมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลง (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 10-6 วรรค 1)
· กรณีมีการเปลี่ยนแปลงประเภทการใช้งานที่ดินจริง
· กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องที่กำหนดโดยกฤษฎีกาของประธานาธิบดี เช่น การใช้เรือ ยานพาหนะ หรือเครื่องจักร
อัตราภาษีของภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์
- เมื่อได้รับทรัพย์มรดกเป็นอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ วิธีการคำนวณภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์จะถูกคิดตามสูตรมาตรฐานการเรียกเก็บภาษีข้างต้น (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 11, มาตรา 12 และ「พระราชบัญญัติบังคับใช้ภาษีท้องถิ่น」มาตรา 23 วรรค 3)
การเพิ่มหรือลดภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์
- กรณีได้รับอสังหาริมทรัพย์เป็นมรดก เช่น สนามกอล์ฟ บ้านหรู ศูนย์รวมความบันเทิงสุดหรู ฯลฯ จะคำนวณภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์ตามสูตรมาตรฐานการเรียกเก็บภาษีโดยวิธีการใช้อัตราตามมาตรฐาน และ4 เท่าของอัตราขั้นพื้นฐานการเรียกเก็บภาษี (20/1000) (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 13 วรรค 5)
- อัตราของภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์สามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามขีดจำกัด 50/100 ของอัตราขั้นพื้นฐานการเรียกเก็บภาษี (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 14)
※ หากต้องการค้นหาเกี่ยวกับการเพิ่มหรือลดของภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์ สามารถค้นหาคำว่า “ภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์” ผ่านเว็บไซต์ (http://www.elis.go.kr/)
การชำระภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์
การรายงานและชำระภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์
- สำหรับบุคคลที่ได้รับมรดกเป็นสิ่งของที่ต้องเสียภาษี บุคคลดังกล่าวจะต้องรายงานมูลค่าและชำระภาษีของทรัพย์สินนั้นภายใน 6 เดือน (9 เดือนสำหรับผู้รับมรดกที่มีที่อยู่ในต่างประเทศ) นับแต่วันที่เริ่มรับมรดก (กรณีหายสาบสูญ จะนับแต่วันที่ประกาศบุคคลสูญหาย) (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 20 วรรค 1)
· บุคคลที่ต้องการรายงานภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์จะต้องรายงานต่อนายกเทศมนตรีที่ตนเองได้ลงทะเบียนชำระภาษีเอาไว้ โดยจะต้องระบุเกี่ยวกับสิ่งของที่ครอบครอง วันที่ครอบครอง และการใช้งาน ฯลฯ (「พระราชบัญญัติบังคับใช้ภาษีท้องถิ่น」มาตรา 33 วรรค 1, 「พระราชบัญญัติการใช้กฎหมายภาษีท้องถิ่น」 มาตรา 9 วรรค 1 และเอกสารแนบหมายเลข 3)
· บุคคลที่ต้องการรายงานภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์จะต้องชำระภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์ด้วยใบกำกับภาษี (「พระราชบัญญัติการใช้กฎหมายภาษีท้องถิ่น」 มาตรา 9 วรรค 2 และเอกสารแนบหมายเลข 4)
การเรียกเก็บภาษีที่ไม่เพียงพอและการเพิ่มจำนวนภาษี
- กรณีบุคคลที่ต้องชำระภาษีการครอบครองกรรมสิทธิ์ไม่รายงานหรือชำระภาษี จะต้องมีการเพิ่มจำนวนภาษีตามจำนวนภาษีดังต่อไปนี้ (「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่น」มาตรา 21 วรรค 1, 「พระราชบัญญัติภาษีท้องถิ่นขั้นพื้นฐาน」มาตรา 53-56 และ「พระราชบัญญัติบังคับใช้ภาษีท้องถิ่น」มาตรา 34).
· ภาษีที่ต้องชำระเพิ่มเติมเนื่องจากไม่ได้รายงาน
· ภาษีที่ต้องชำระเพิ่มเติมเนื่องจากการรายงานเท็จ
· ภาษีที่ต้องชำระเพิ่มเติมเนื่องจากขาดการชำระ
· ภาษีที่ต้องชำระเพิ่มเติมในกรณีพิเศษ