การร้องขอและประกาศการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
การร้องขอและประกาศการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
- กรณีไม่ทราบอย่างชัดเจนว่ามีผู้รับมรดกหรือไม่ ญาติหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเจ้ามรดกสามารถร้องขอการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกต่อศาลเยาวชนและครอบครัวได้ (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1053 วรรค 1).
※ “ญาติของเจ้ามรดก” หมายถึงครอบครัวทางสายเลือดภายในรุ่นที่ 8, ญาติพี่น้องใกล้ตัวภายในรุ่นที่ 4 หรือคู่สมรส (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 777).
※ “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” หมายถึง บุคคลที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องทางกฎหมาย เจ้าหนี้ทรัพย์มรดก ผู้ได้รับทรัพย์สินจากการยกมรดก ที่ดำเนินการจัดขายทรัพย์มรดก
· ดังนั้น หลังจากแต่งตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว ศาลเยาวชนและครอบครัวจะต้องดำเนินการประกาศโดยเร็วที่สุด [「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1053 วรรค 1 และ 「พระราชบัญญัติการฟ้องร้องคดีครอบครัว」มาตรา 2 วรรค 1 ข้อ 2(37)].
· เนื้อหาของการประกาศแต่งตั้งผู้จัดการมรดกมีดังต่อไปนี้ (「กฎข้อบังคับการฟ้องร้องคดีเยาวชนและครอบครัว」มาตรา 79).
√ ชื่อและที่อยู่ของผู้ร้องขอ
√ ชื่อ อาชีพ และที่อยู่ล่าสุดของเจ้ามรดก
√ วันเกิด สถานที่และวันที่เสียชีวิตของเจ้ามรดก
√ ชื่อและสถานที่ของผู้จัดการมรดก
· ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการประกาศจะถูกหักออกจากทรัพย์มรดก (「กฎข้อบังคับการฟ้องร้องคดีเยาวชนและครอบครัว」มาตรา 81).
การจัดการทรัพย์มรดกของผู้จัดการมรดกที่ถูกแต่งตั้ง
- ผู้จัดการมรดกที่ถูกแต่งตั้งโดยศาลเยาวชนและครอบครัวจะต้องระบุเกี่ยวกับรายการของทรัพย์สินที่ตนจะต้องจัดการ (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1053 วรรค 2 และ มาตรา 24 วรรค 1).
· ศาลเยาวชนและครอบครัวสามารถออกคำสั่งแก่ผู้จัดการมรดกให้ดำเนินการการจัดการที่จำเป็นเพื่อรักษาทรัพย์มรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1053 วรรค 2 และ มาตรา 24 วรรค 2).
· ค่าใช้จ่ายที่ใช้เพื่อการจัดการมรดกโดยผู้จัดการมรดกจะถูกหักออกจากทรัพย์มรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1053 วรรค 2 และ มาตรา 24 วรรค 4)
- ผู้จัดการมรดกที่ถูกแต่งตั้งโดยศาลเยาวชนและครอบครัวจะต้องได้รับอนุญาตจากศาล เมื่อใช้หรือปรับปรุงสิ่งของหรือสิทธิที่มีวัตถุประสงค์ในการรักษาและจัดการกับทรัพย์สิน (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 118) กรณีไม่ทราบอย่างชัดเจนถึงความเป็นความตายของผู้รับมรดก ผู้จัดการมรดกจะต้องได้รับอนุญาตจากศาลเยาวชนและครอบครัว เมื่อกระทำการใด ๆ ที่นอกเหนือจากอำนาจและสิทธิของตนเอง (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1053 วรรค 2 และ มาตรา 25).
การจัดสรรการค้ำประกันของผู้จัดการมรดกที่ถูกแต่งตั้ง
- ศาลเยาวชนและครอบครัวสามารถออกคำสั่งต่อผู้จัดการมรดกให้จัดสรรการค้ำประกันสำหรับการจัดการและส่งคืนทรัพย์สิน (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1053 วรรค 2 และ มาตรา 26 วรรค 1).
ค่าตอบแทนสำหรับผู้จัดการมรดกที่ถูกแต่งตั้ง
- ศาลเยาวชนและครอบครัวสามารถจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้จัดการมรดกที่ถูกแต่งตั้งโดยหักออกจากทรัพย์มรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1053 วรรค 2 และ มาตรา 26 วรรค 2).
กรณีผู้รับมรดกปรากฎตัวขึ้น
กรณีทราบอย่างชัดเจนถึงตัวตนของผู้รับมรดก
- หน้าที่ของผู้จัดการมรดกจะสิ้นสุดลงเมื่อทราบอย่างชัดเจนถึงตัวตนของผู้รับมรดก และผู้รับมรดกนั้นตัดสินใจรับมรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1055 วรรค 1).
- เมื่อผู้รับมรดกตัดวินใจรับมรดก ผู้จัดการมรดกจะต้องคำนวณค่าจัดการสำหรับผู้รับมรดกโดยเร็วที่สุด (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1055 วรรค 2).
กรณีผู้รับมรดกไม่ปรากฎตัว
การประกาศการชำระหนี้
- กรณีไม่ทราบถึงตัวตนของผู้รับมรดกภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ประกาศแต่งตั้งผู้จัดการมรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1053 วรรค 1) ผู้จัดการมรกดกจะต้องแจ้งเกี่ยวกับสิทธิเจ้าหนี้และการโอนสิทธิภายในระยะเวลาที่กำหนดให้แก่เจ้าหนี้ทรัพย์มรดกทั่วไปและผู้ได้รับทรัพย์สินจากการยกมรดก ช่วงระยะเวลานั้นจะต้องมากกว่า 2 เดือน (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 1).
· ในการประกาศแจ้งสิทธิเจ้าหนี้จะต้องระบุว่าชำระหนี้จะถูกแยกออกเมื่อเจ้าหนี้ไม่แจ้งภายในระยะเวลาที่กำหนด (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2 และ มาตรา 88 วรรค 2).
· การประกาศแจ้งสิทธิเจ้าหนี้จะต้องดำเนินการตามวิธีเดียวกันกับการแจ้งลงทะเบียนต่อศาล (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2 และ มาตรา 88 วรรค 3).
การแจ้งสิทธิเจ้าหนี้จเกี่ยวกับเจ้าหนี้ที่รู้จัก
- ผู้จัดการมรดกจะต้องแจ้งสิทธิเจ้าหนี้แต่ละครั้งเกี่ยวกับเจ้าหนี้ที่รู้จัก แต่จะไม่สามารถยกเว้นเจ้าหนี้ที่รู้จักออกจากการชำระหนี้ได้ (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2 และ มาตรา 89).
ลำดับและวิธีการชำระหนี้
- ผู้จัดการมรดกสามารถปฏิเสธการชำระหนี้ของสิทธิเจ้าหนี้ในการรับมรดกก่อนระยะเวลาของการแจ้งหรือประกาศที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหนี้สิ้นสุดลง (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2 และ มาตรา 1033).
- ผู้จัดการมรดกจะต้องชำระหนี้ตามส่วนแบ่งของจำนวนสิทธิเจ้าหนี้ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ที่แจ้งเกี่ยวกับทรัพย์มรดกภายในระยะเวลานั้น และเป็นเจ้าหนี้ที่ผู้จัดการมรดกรู้จักหลังจากระยะเวลาของการแจ้งหรือประกาศสิทธิเจ้าหนี้สิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม จะไม่สามารถส่งผลกระทบต่อสิทธิของเจ้าหนี้ที่มีสิทธิพิเศษ (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2 และ มาตรา 1034 วรรค 1).
· ในกรณีดำเนินการรับมรดกแบบจำกัด (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1019 วรรค 3) ผู้รับมรดกนั้นจะต้องชำระหนี้จำนวนทรัพย์มรดกที่คงเหลืออยู่รวมถึงจำนวนทรัพย์สินที่จัดการขายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การจะดำเนินการรับมรดกแบบจำกัด จำนวนเงินที่ใช้ชำระหนี้ไปแล้วจะถูกแยกออกจากจำนวนทรัพย์สินที่ถูกจัดการขายเรียบร้อยแล้ว (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1034 วรรค 2).
- ผู้จัดการมรดกจะต้องชำระหนี้ตามส่วนแบ่งของจำนวนสิทธิเจ้าหนี้แก่เจ้าหนี้ที่แจ้งเป็นทรัพย์มรดกภายในระยะเวลานั้นและเจ้าหนี้ที่ผู้จัดการมรดกรู้จัก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2 และ มาตรา 1035 วรรค 1).
· การชำระหนี้จะต้องขึ้นอยู่กับผู้ประเมินที่แต่งตั้งโดยศาลสำหรับสิทธิเจ้าหนี้ที่มีเงื่อนไขหรือมีระยะเวลาที่ไม่ชัดเจน (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2 และ มาตรา 1035 วรรค 2).
√ ค่าใช้จ่ายในการแต่งตั้งผู้ประเมินและค่าใช้จ่ายในการประเมินจะถูกหักออกจากทรัพย์มรดก (「กฎข้อบังคับการฟ้องร้องคดีเยาวชนและครอบครัว」มาตรา 82).
- ผู้จัดการมรดกจะไม่สามารถชำระหนี้ต่อผู้ได้รับทรัพย์สินจากการยกมรดก หากยังไม่สิ้นสุดการชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้ทรัพย์มรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2 และ มาตรา 1036).
- หากต้องการชำระหนี้เพื่อการชำระหนี้ของทรัพย์มรดก จะต้องขายทรัพย์สินบางส่วนหรือทั้งหมดของตนเอง สามารถดำเนินการประมูลสินค้าได้ตาม「พระราชบัญญัติบังคับคดีแพ่ง」 (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2 และ มาตรา 1037).
- ผู้จัดการมรดกจะต้องชำระความเสียหายตามกรณีดังต่อไปนี้ กรณีผู้จัดการมรดกไม่ดำเนินการประกาศหรือแจ้งต่อเจ้าหนี้ให้เรียบร้อย (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1032) กรณีไม่ประพฤติตามกฎของ「ประมวลกฎหมายแพ่ง」 (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1033-1036) โดยได้ทำการใช้หนี้ต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งในบรรดาเจ้าหนี้ทรัพย์มรดกและผู้ได้รับทรัพย์สินจากการยกมรดก แต่ชำระหนี้คืนได้ไม่ครบทุกราย (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2 และ มาตรา 1038 วรรค 1).
· กรณีการชำระหนี้ที่ไม่เป็นธรรมเพื่อการชำระหนี้ทรัพย์มรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา1038 วรรค 1) เจ้าหนี้มรดกทั่วไปหรือผู้ได้รับทรัพย์สินที่ไม่ได้รับการชำระหนี้จากการยกมรดกจะสามารถเรียกร้องสิทธิเนื่องจากชำระหนี้แทนได้ ซึ่งเจ้าหนี้มรดกหรือผู้ได้รับทรัพย์สินจากการยกมรดกที่ทราบสถานะหรือรายละเอียดจะได้รับการชำระหนี้ (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2 และ มาตรา 1038 วรรค 2).
· การเรียกร้องสิทธิเนื่องจากการชำระหนี้แทนเพราะการชำระหนี้ที่ไม่เป็นธรรมจะกลายเป็นโมฆะหากไม่มีการใช้สิทธิดังกล่าวภายใน 3 ปีนับแต่วันที่ผู้เรียกร้องสิทธิเนื่องจากชำระหนี้แทนหรือตัวแทนทางกฎหมายทราบเกี่ยวกับความเสียหายนั้น และจะสิ้นสุดอายุการใช้งานลงเมื่อผ่านไป 10 ปีนับตั้งแต่วันที่การชำระหนี้ที่ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2, มาตรา 1038 วรรค 3 และ มาตรา 766).
- เจ้าหนี้ทรัพย์มรดกที่ไม่ได้รายงานภายในระยะเวลาของการประกาศหรือแจ้งเกี่ยวกับเจ้าหนี้ (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1032 วรรค 1) และผู้ได้รับทรัพย์สินจากการยกมรดกเป็นบุคคลที่ผู้จัดการมรดกไม่รู้จัก บุคคลดังกล่าวสามารถรับการชำระหนี้ได้หากมีทรัพย์มรดกหลงเหลืออยู่ อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นหากมีสิทธิการค้ำประกันพิเศษเกี่ยวกับทรัพย์มรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 2 และ มาตรา 1039).
การประกาศตามหาผู้รับมรดกครั้งสุดท้าย
การประกาศตามหาผู้รับมรดก
- เมื่อไม่ทราบเกี่ยวกับตัวตนของผู้รับมรดกแม้ว่าช่วงระยะเวลาของการแจ้งชำระหนี้จะสิ้นสุดลง (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1056 วรรค 1) กรณีที่มีผู้รับมรดก ศาลจะต้องประกาศยืนยันสิทธินั้นภายในระยะเวลาที่กำหนดตามคำร้องขอของผู้จัดการมรดก ช่วงระยะเวลานั้นจะต้องมากกว่า 1 ปี (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1057).
· ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการประกาศตามหาผู้รับมรดกคจะถูกหักออกจากทรัพย์มรดก (「กฎข้อบังคับการฟ้องร้องคดีเยาวชนและครอบครัว」มาตรา 81).
กรณีมีผู้มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษ
พิจารณาส่วนแบ่งของผู้มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษ
- ผู้มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษสามารถร้องขอส่วนแบ่งทรัพย์มรดกได้กรณีที่ไม่มีบุคคลที่ยืนยันสิทธิรับมรดกภายในระยะเวลาของการประกาศตามหาผู้รับมรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1057) (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1057(2) วรรค 1).
- เมื่อการร้องขอของผู้มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษได้รับการยืนยันแล้วว่ามีความสมเหตุสมผล ศาลเยาวชนและครอบครัวจะตัดสินผ่านการพิจารณาเกี่ยวกับการแบ่งทรัพย์มรดกทั้งหมดหรือบางส่วน (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1057(2) วรรค 1).
※ บุคคลที่สามารถเป็นผู้มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษได้
· “ผู้มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษ” หมายถึง บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษกับเจ้ามรดกในขณะที่เสียชีวิต ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
√ บุคคลที่อาศัยอยู่กับเจ้ามรดก
√ บุคคลที่คอยดูแลรักษาเจ้ามรดก
√ บุคคลที่เจ้ามรดกมอบหมายให้ประกอบพิธีเซ่นไหว้ให้แก่ตัวเจ้ามรดกเองและบรรพบุรุษ
√ บุคคลที่เคยจัดการทรัพย์สมบัติ
√ บุคคลที่มีความสัมพันธ์เป็นสามีภรรยาโดยพฤตินัย
ระยะเวลาการร้องขอ
- ระยะเวลาของการร้องขอการพิจารณาเกี่ยวกับการแบ่งทรัพย์มรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1057(2) วรรค 1) จะต้องดำเนินการภายใน 2 เดือนหลังจากการประกาศตามหาผู้รับมรดกสิ้นสุดลง (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1057) (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1057(2) วรรค 2).
การคัดค้านคำพิพากษาเกี่ยวกับการแบ่งทรัพย์มรดก
- ในการพิจารณาการแบ่งทรัพย์มรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1057 วรรค 2) บุคคลที่อาศัยอยู่กับเจ้ามรดก บุคคลที่คอยดูแลรักษาเจ้ามรดก บุคคลที่มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษกับเจ้ามรดก บุคคลเหล่านี้จะสามารถอุทธรณ์ต่อศาลได้ทันที (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1057(2) วรรค 1) (「กฎข้อบังคับการฟ้องร้องคดีเยาวชนและครอบครัว」มาตรา 83).
※ “การอุทธรณ์ได้ทันที” หมายถึง การอุทธรณ์คัดค้านภายใน 1 อาทิตย์นับแต่วันที่ผลของการพิจารณาตามคำสั่งและการตัดสินใจของศาลเยาวชนและครอบครัวถูกแจ้งออกมา (「พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความแพ่ง」มาตรา 444).
กรณีไม่มีผู้มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษ
การครอบครองทรัพย์มรดกโดยรัฐ
- รัฐจะเป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกที่ไม่มีการแบ่งให้แก่ผู้มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษ (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1058 วรรค 1).
- เมื่อรัฐได้ครอบครองทรัพย์มรดก ผู้จัดการมรดกจะต้องคำนวณค่าจัดการสำหรับผู้รับมรดกโดยเร็วที่สุด (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1058 วรรค 2 และ มาตรา 1055 วรรค 2).
ข้อห้ามมิให้ร้องขอการชำระหนี้เกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่ถูกครอบครองโดยรัฐ
- เมื่อรัฐได้ครอบครองทรัพย์มรดก จะไม่สามารถร้องขอการชำระหนี้สินนั้นจากรัฐได้ แม้ว่าจะมีเจ้าหนี้ทรัพย์มรดกหรือผู้ได้รับทรัพย์สินจากการยกมรดกที่ไม่ได้รับการชำระหนี้คืนจากทรัพย์มรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1059).