การรับมรดกแบบจำกัด
แนวคิดของการรับมรดกแบบจำกัด
- “การรับมรดกแบบจำกัด” หมายถึงการแสดงออกถึงเจตจำนงว่าจะรับมรดกโดยมีเงื่อนไขว่าจะชำระหนี้สินของเจ้ามรดกภายในจำกัดของทรัพย์สินที่จะได้รับเป็นมรดก
การรับมรดกแบบจำกัดพิเศษ
- “การรับมรดกแบบจำกัดพิเศษ” หมายถึงเป็นการรับมรดกแบบจำกัดพิเศษในกรณีผู้รับมรดกไม่ทราบถึงความจริงเกี่ยวกับหนี้สินทางมรดกว่ามีจำนวนมากกว่าทรัพย์สินทางมรดกภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ทราบว่ามีการเริ่มรับมรดกเกิดขึ้น และได้ดำเนินการรับมรดกแบบทั่วไป เมื่อเป็นเช่นนั้นจะสามารถดำเนินการการรับมรดกแบบจำกัดภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ทราบความจริงนั้นได้ (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1019 วรรค 3).
การรับมรดกแบบจำกัดของผู้รับมรดกร่วม
- หากมีผู้รับมรดกร่วมหลายคน ผู้รับมรดกร่วมแต่ละคนสามารถดำเนินการรับมรดกได้ภายใต้ขอบเขตส่วนแบ่งของการรับมรดกซึ่งมีเงื่อนไขการชำระหนี้สินและการยกมรดกของเจ้ามรดกตามการแบ่งมรดกดังกล่าว(「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1029).
การแจ้งเกี่ยวกับการรับมรดกแบบจำกัด
วิธีการรับมรดกแบบจำกัด
- เมื่อผู้รับมรดกดำเนินการรับมรดกแบบจำกัดจะต้องรายงานต่อศาลเยาวชนและครอบครัวของสถานที่ในการเริ่มรับมรดกภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ทราบว่ามีการเริ่มรับมรดกเกิดขึ้น (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1019 วรรค 1)โดยต้องยื่นรายการของทรัพย์มรดก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1030 วรรค 1 และ 「พระราชบัญญัติการฟ้องร้องคดีครอบครัว」มาตรา 44 วรรค 1 ข้อ 6).
- กรณีการรับมรดกแบบจำกัดพิเศษ ผู้รับมรดกจะต้องรายงานต่อศาลเยาวชนและครอบครัว หากผู้รับมรดกไม่ทราบถึงความจริงเกี่ยวกับหนี้สินทางมรดกว่ามีจำนวนมากกว่าทรัพย์สินทางมรดกภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ทราบว่ามีการเริ่มรับมรดกเกิดขึ้น และได้ดำเนินการรับมรดกแบบทั่วไป เมื่อเป็นเช่นนั้นจะสามารถดำเนินการการรับมรดกแบบจำกัดภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ทราบความจริงนั้นได้ (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1030 วรรค 1 และ 「พระราชบัญญัติการฟ้องร้องคดีครอบครัว」มาตรา 44 วรรค 1 ข้อ 6).
การส่งใบแจ้งการรับมรดกแบบจำกัด
- เมื่อต้องการรายงานเกี่ยวกับการรับมรดกแบบจำกัดหรือการสละมรดก บุคคลนั้นจะต้องส่งเอกสารที่ระบุที่เกี่ยวข้องและลงนามโดยผู้แจ้งหรือตัวแทนเพื่อเป็นการยืนยัน (「กฎข้อบังคับการฟ้องร้องคดีเยาวชนและครอบครัว」มาตรา 75 วรรค 1 และ 「พระราชบัญญัติการฟ้องร้องคดีครอบครัว」มาตรา 36 วรรค 3).
- กรณีดำเนินการรับมรดกแบบจำกัด จะต้องส่งรายการและมูลค่าเหล่านั้นเมื่อมีทรัพย์สินจากทรัพย์มรดกที่จัดการขายไปเรียบร้อยแล้ว (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1030 วรรค 2).
- ในการส่งใบแจ้งการรับมรดกแบบจำกัด จะต้องแนบหนังสือรับรองตราประทับที่ขึ้นทะเบียนไว้ของผู้แจ้งหรือตัวแทน (「กฎข้อบังคับการฟ้องร้องคดีเยาวชนและครอบครัว」มาตรา 75 วรรค 2).
การรับของการแจ้งรายงาน
- ศาลเยาวชนและครอบครัวจะยอมรับใบแจ้งในกรณีที่ใบแจ้งนั้นไม่พบปัญหาใด ๆ
- เมื่อศาลเยาวชนและครอบครัวยอมรับใบแจ้งการรับมรดกแบบจำกัดแล้ว หลังจากนั้นจะตัดสินว่าควรให้ปฏิบัติเช่นไรเกี่ยวกับหนี้สินทางมรดกทั้งหมด แม้ว่าผู้รับมรดกจะไม่มีมรดกหรือมีทรัพย์มรดกที่ไม่เพียงพอเพื่อชำระหนี้คืน
- อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหนี้สินนั้นมีคุณสมบัติที่บังคับให้ปฏิบัติเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ผู้รับมรดกมีอยู่แล้ว ซึ่งจะถูกระบุไว้ถึงเป้าหมายบังคับใช้ภายใต้ขอบเขตของทรัพย์มรดกตามการตัดสินเพื่อจำกัดอำนาจของการบังคับคดี
- เมื่อศาลเยาวชนและครอบครัวอนุมัติการรายงานของการรับมรดกแบบจำกัดแล้ว ระหว่างขั้นตอนการรับเอกสารไปพิจารณา เอกสารนั้นจะต้องระบุวันที่ของการรายงานและกรณีที่มีตัวแทนดำเนินการให้ จะต้องแจ้งชื่อและที่อยู่ของบุคคลนั้น (「กฎข้อบังคับการฟ้องร้องคดีเยาวชนและครอบครัว」มาตรา 75 วรรค 3).
ระยะเวลาของการรับมรดกแบบจำกัด
ระยะเวลาของการรับมรดกแบบจำกัด
- ผู้รับมรดกสามารถรับมรดกแบบจำกัดได้ภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ทราบว่ามีการเริ่มรับมรดกเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ศาลเยาวชนและครอบครัวสามารถขยายเวลาตามคำร้องขอของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรืออัยการได้ (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1019 วรรค 1).
ระยะเวลาของการรับมรดกแบบจำกัดพิเศษ
- กรณีผู้รับมรดกไม่ทราบถึงความจริงเกี่ยวกับหนี้สินทางมรดกว่ามีจำนวนมากกว่าทรัพย์สินทางมรดกภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ทราบว่ามีการเริ่มรับมรดกเกิดขึ้น และได้ดำเนินการรับมรดกแบบทั่วไป เมื่อเป็นเช่นนั้นจะสามารถดำเนินการรับมรดกแบบจำกัดภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ทราบความจริงนั้น แม้ว่าผู้รับมรดกจะทำการตรวจสอบทรัพย์มรดกก่อนการรับหรือสละมรดกแล้วก็ตาม(รวมถึง กรณียอมรับการรับมรดกแบบทั่วไปตามกฎหมาย「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1026 วรรค 1 และ 2) (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1019 วรรค 3).
- แม้ว่าทายาทจะยอมหรือสละมรดกก่อนแล้วก็ตาม หากทายาทซึ่งเป็นผู้เยาว์รับเอามรดกก่อนบรรลุนิติภาวะโดยมีหนี้สินในกองมรดกมากกว่าทรัพย์มรดกที่ได้รับ หลังจากบรรลุนิติภาวะแล้วสามารถจำกัดการรับมรดกนั้นได้ภายใน 3 เดือนนับจากวันที่ได้ทราบข้อเท็จจริงว่าหนี้สินในกองมรดกนั้นมากกว่าทรัพย์สินที่ได้รับ ทั้งนี้ใช้ใช้บังคับกับกรณีที่ทายาทที่เป็นผู้เยาว์นั้นไม่จำกัดการรับมรดกหรือกรณีที่ไม่สามารถรู้ได้ตามมาตรา 1019 วรรค 3 แห่งกฎหมายแพ่งด้วย (มาตรา 1019 วรรค 4 แห่งกฎหมายแพ่ง)
ระยะเวลาการรับมรดกของผู้ขาดคุณสมบัติ
- ระยะเวลาภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ทราบว่ามีการเริ่มรับมรดกหากผู้รับมรดกเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ระยะเวลานั้นจะนับแต่วันที่ผู้ที่มีสิทธิในการเป็นผู้ปกครองหรือผู้ปกครองเริ่มทราบว่ามีการเริ่มรับมรดกเกิดขึ้น (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1020).
กฎหมายพิเศษเกี่ยวกับการคำนวณระยะเวลาการรับมรดก
- กรณีผู้รับมรดกเสียชีวิตภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ไม่ได้รับมรดกและทราบว่ามีการเริ่มรับมรดก จะนับระยะเวลานั้นตั้งแต่วันที่ผู้รับมรดกของบุคคลนั้นทราบว่ามีการเริ่มรับมรดกของตนเอง (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1021).
ผลประโยชน์ของการรับมรดกแบบจำกัด
ผลประโยชน์ของการรับมรดกแบบจำกัด
- ถึงแม้ว่าจะดำเนินการรับมรดกแบบจำกัดอยู่ แต่หนี้สินของเจ้ามรดกยังคงมีผลบังคับใช้อยู่
- อย่างไรก็ตาม ผู้รับมรดกจะสามารถชำระหนี้สินของเข้ามรดกได้ภายใต้ขอบเขตของจำนวนทรัพย์มรดกที่ตนเองได้รับผ่านมรดกของการรับมรดกแบบจำกัด (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1028).
การรับมรดกแบบจำกัดและสิทธิและหน้าที่ทางทรัพย์สินที่สูญหายไป
- เมื่อผู้รับมรดกดำเนินการรับมรดกแบบจำกัด สิทธิและหน้าที่ทางทรัพย์สินเกี่ยวกับเจ้ามรดกที่ผู้รับมรดกได้รับจะไม่สูญหายไป (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1031).
การประกาศหรือการแจ้งต่อเจ้าหนี้
- ผู้รับมรดกแบบจำกัดจะต้องประกาศความจริงเกี่ยวกับการรับมรดกแบบจำกัดของเจ้าหนี้ทรัพย์มรดกทั่วไปและผู้ที่ยกมรดกให้ ภายใน 5 วันนับแต่วันที่ดำเนินการรับมรดกแบบจำกัด นอกจากนี้จะต้องแจ้งเกี่ยวกับสิทธิเจ้าหนี้และการโอนสิทธิด้วยเช่นกัน ช่วงระยะเวลานั้นจะต้องมากกว่า 2 เดือน (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1032 วรรค 1).
- ผู้รับมรดกแบบจำกัดจะต้องแจ้งสิทธิเจ้าหนี้แต่ละครั้งเกี่ยวกับเจ้าหนี้ที่รู้จัก แต่จะไม่สามารถยกเว้นเจ้าหนี้ที่รู้จักออกจากการชำระหนี้ได้ (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1032 วรรค 2 และ มาตรา 89).
- ผู้รับมรดกแบบจำกัดสามารถปฏิเสธการชำระหนี้ของสิทธิเจ้าหนี้ในการรับมรดกก่อนระยะเวลาของการแจ้งหรือประกาศสิทธิเจ้าหนี้สิ้นสุดลง (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1032 วรรค 1) ตั้งแต่วันที่เริ่มดำเนินการรับมรดกแบบจำกัด (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1033).
ส่วนแบ่งในการชำระหนี้
- ผู้รับมรดกแบบจำกัดจะต้องชำระหนี้ตามส่วนแบ่งของจำนวนสิทธิเจ้าหนี้ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ที่แจ้งเกี่ยวกับทรัพย์มรดกภายในระยะเวลานั้น และเป็นเจ้าหนี้ที่ผู้รับมรดกแบบจำกัดรู้จักหลังจากระยะเวลาของการแจ้งหรือประกาศสิทธิเจ้าหนี้สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่เริ่มดำเนินการรับมรดกแบบจำกัด (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1032 วรรค 1) อย่างไรก็ตาม จะไม่สามารถส่งผลกระทบต่อสิทธิของเจ้าหนี้ที่มีสิทธิพิเศษ (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1034 วรรค 1).
※ “เจ้าหนี้ที่มีสิทธิพิเศษ” หมายถึงบุคคลที่มีสิทธิที่จะได้รับการชำระหนี้ก่อนสิทธิเจ้าหนี้อื่น และสิทธิเจ้าหนี้ที่มีสิทธิพิเศษประกอบด้วยสิทธิจำนอง สิทธิการจำนอง ฯลฯ
- ในกรณีดำเนินการรับมรดกแบบจำกัดพิเศษ(「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1019 วรรค 3) ผู้รับมรดกนั้นจะต้องชำระหนี้จำนวนทรัพย์มรดกที่คงเหลืออยู่รวมถึงจำนวนทรัพย์สินที่จัดการขายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การจะดำเนินการรับมรดกแบบจำกัด จำนวนเงินที่ใช้ชำระหนี้ไปแล้วจะถูกแยกออกจากจำนวนทรัพย์สินที่ถูกจัดการขายเรียบร้อยแล้ว (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1034 วรรค 2).
- ผู้รับมรดกแบบจำกัดจะต้องชำระหนี้ตามส่วนแบ่งของจำนวนสิทธิเจ้าหนี้แก่เจ้าหนี้ที่แจ้งเป็นทรัพย์มรดกภายในระยะเวลานั้นและเจ้าหนี้ที่ผู้รับมรดกแบบจำกัดรู้จัก (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1032 วรรค 1) หลังจากการแจ้งหรือประกาศของสิทธิเจ้าหนี้สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่เริ่มดำเนินการรับมรดกแบบจำกัด (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1035 วรรค 1 และ มาตรา 1034 วรรค 1).
กายกเลิกการรับมรดกแบบจำกัด
ข้อห้ามตามหลักการของการยกเลิก
- การรับมรดกจะไม่สามารถยกเลิกได้ภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ทราบว่ามีการเริ่มรับมรดกเกิดขึ้น (「ประมวลกฎหมายแพ่ง」มาตรา 1024 วรรค 1).
การอนุญาตข้อยกเว้นพิเศษ
- อย่างไรก็ตาม กรณีผู้รับมรดกได้รับมรดกด้วยความเข้าใจผิด ถูกฉ้อโกง หรือบังคับขู่เข็ญ ผู้รับมรดกสามารถยกเลิกการรับมรดกได้แต่ทว่า สิทธิการยกเลิกจะสิ้นสุดลงตามอายุความภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ยินยอมสิทธิดังกล่าว หรือภายใน 1 ปีนับแต่วันที่รับหรือสละมรดก(「ประมวลกฎหมายแพ่ง」 มาตรา 1024 วรรค 2).
- เมื่อต้องการยกเลิกเกี่ยวกับการรับมรดกแบบจำกัดหรือการสละมรดก จะต้องแจ้งโดยการยื่นเอกสารที่ลงนามของผู้แจ้งหรือตัวแทนที่ศาลเยาวชนและครอบครัวที่ตัดสินการรับหรือสละมรดก (「กฎข้อบังคับการฟ้องร้องคดีเยาวชนและครอบครัว」มาตรา 76 วรรค 1).
- ในการส่งใบแจ้งยกเลิกการรับมรดกแบบจำกัด จะต้องแนบหนังสือรับรองตราประทับที่ขึ้นทะเบียนไว้ของผู้แจ้งหรือตัวแทน (「กฎข้อบังคับการฟ้องร้องคดีเยาวชนและครอบครัว」มาตรา 76 วรรค 3 และ มาตรา 75 วรรค 2).