ให้ตรวจสอบประเด็นต่อไปนี้ หากคุณตัดสินใจเริ่มประกอบกิจการแฟรนไชส์
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับประเภทของธุรกิจที่คุณสนใจ
- ทำการหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับประเภทของธุรกิจที่คุณสนใจ ด้วยการปรึกษาผู้ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ ที่มีประสบการณ์ เข้าร่วมมหกรรมการเริ่มต้นธุรกิจ และเยี่ยมชมเว็บไซต์สำหรับธุรกรรมทางธุรกิจ แฟรนไชส์ภายใต้คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า
การเลือกสำนักงานใหญ่ของธุรกิจแฟรนไชส์ตามข้อมูลที่ได้รวบรวม
- ใช้ข้อมูลที่ได้รวบรวมมาจากช่องทางต่าง ๆ เพื่อทำการทบทวนรายการต่อไปนี้ แล้วเลือกผู้ให้สิทธิ แฟรนไชส์ 2 หรือ 3 รายเพื่อเป็นผู้ที่จะเป็นผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ตามคุณสมบัติ
- เข้าเยี่ยมผู้ที่จะเป็นผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์เพื่อทำการปรึกษาโดยละเอียดและขอรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ให้แน่ใจว่าได้รับคำแถลงการเปิดเผยข้อมูล เอกสารส่งเสริมการขาย รายได้ที่คาดหวัง อัตรากำไร และข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเป็นลายลักษณ์อักษร
- ในกรณีที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ให้คำแถลงการเปิดเผยข้อมูล ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องให้คำแถลงการ เปิดเผยข้อมูล พร้อมกับเอกสารซึ่งระบุชื่อทางการค้า ตำแหน่งที่ตั้ง และหมายเลขโทรศัพท์ของ ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์จำนวนสิบราย ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานที่ที่วางแผนที่จะเปิดร้านค้าในอนาคตของ ผู้ประสงค์จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ (อ้างอิงถึงผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ทุกรายในรัฐบาลท้องถิ่นมหานคร ในกรณีที่จำนวนผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ที่ประกอบกิจการในรัฐบาลท้องถิ่นมหานครซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าในอนาคตของผู้ประสงค์จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์มีจำนวนน้อยกว่าสิบราย ณ เวลาที่ผู้ให้สิทธิ แฟรนไชส์ให้คำแถลงการเปิดเผยข้อมูล) (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」บทบัญญัติหลัก มาตรา 7(2))
การตรวจสอบสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์
- ตรวจสอบข้อกำหนดแต่ละข้อ รวมไปถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขของกิจกรรมทางธุรกิจของแฟรนไชส์ การแบ่งเขตธุรกิจ ข้อกำหนดของสัญญา และประเด็นเกี่ยวกับการเพิกถอนสัญญาตามที่ระบุในสัญญา และเปรียบเทียบกับข้อกำหนดและเงื่อนไขที่อยู่ในสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์มาตรฐาน
- ตรวจสอบว่าสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์ ประะกอบไปด้วยข้อมูลที่ต้องระบุตามที่กฎหมายกำหนด (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」มาตรา 11(2) และ「พระราชกำหนด การบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」มาตรา 12)
· ประเด็นเกี่ยวกับการให้สิทธิ์การใช้เครื่องหมายธุรกิจ
· ประเด็นเกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไขของกิจกรรมทางธุรกิจของผู้รับสิทธิแฟรนไชส์
· ประเด็นเกี่ยวกับแนวทางด้านการศึกษา การฝึกอบรม การทำธุรกิจสำหรับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์
· ประเด็นเกี่ยวกับการชำระค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์
· ประเด็นเกี่ยวกับการกำหนดเขตพื้นที่ธุรกิจ
· ประเด็นเกี่ยวกับข้อกำหนดของสัญญา
· ประเด็นเกี่ยวกับการโอนธุรกิจ
· ประเด็นเกี่ยวกับมูลเหตุแห่งการเพิกถอนสัญญา
· ข้อเท็จเกี่ยวกับค่ามัดจำแฟรนไชส์ซึ่งจะต้องนำฝากกับบัญชีรับฝากค่ามัดจำเป็นเวลา 2 เดือน นับจากวันที่ผู้ประสงค์จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ หรือผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ได้เข้าทำสัญญาธุรกิจ แฟรนไชส์ (หรือจนกว่าจะถึงวันเริ่มประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ในกรณีที่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์เริ่ม ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ก่อนครบกำหนด 2 เดือน) (หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ทำสัญญาการ ประกันชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ประเด็นเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย)
· ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประสงค์จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ หากเขา/เธอได้ทำการปรึกษากับอัยการ หรือผู้ค้าแฟรนไชส์
· ประเด็นเกี่ยวกับภาระผูกพันในการชดเชยผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ สำหรับความเสียหายอันเกิดจาก การกระทำที่ผิดกฎหมายโดยผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ หรือผู้บริหารของผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ หรือการ กระทำของพวกเขาที่ฝืนต่อธรรมเนียมปฏิบัติทางสังคม เช่น ความเสียหายต่อชื่อเสียง หรือความน่าเชื่อถือของกิจการแฟรนไชส์
· ประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ์และภาระผูกพันของคู่สัญญาที่มีจากกิจการแฟรนไชส์ตาม ที่ระบุด้านล่าง
√ ประเด็นเกี่ยวกับเงื่อนไขในการคืนเงิน เช่น ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์
√ ประเด็นเกี่ยวกับการติดตั้งอุปกรณ์การดำเนินการ สิ่งติดตรึง สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ของผู้รับสิทธิ แฟรนไชส์และการบำรุงรักษาและซ่อมแซมที่เกิดขึ้นและภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าว
√ ประเด็นเกี่ยวกับมาตรการที่ต้องปฏิบัติตามการหมดอายุและเพิกถอนสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์
√ ประเด็นเกี่ยวกับเหตุผลที่ดีที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์มีสิทธิ์ในการปฏิเสธต่ออายุสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์
√ ประเด็นเกี่ยวกับความลับทางการค้าของผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์
√ ประเด็นเกี่ยวกับการชดเชยการขาดทุนอันเนื่องมาจากการละเมิดสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์
√ ประเด็นเกี่ยวกับขั้นตอนปฏิบัติในการยุติข้อพิพาทระหว่างผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์กับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์
√ ประเด็นเกี่ยวกับสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์กับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ก่อนหน้า ในกรณีที่ผู้ให้สิทธิ แฟรนไชส์ได้ทำการโอนแฟรนไชส์ไปให้กับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์รายอื่น
√ ประเด็นเกี่ยวกับมาตรการที่ต้องดำเนินการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการใช้สิทธิ์ทางทรัพย์สิน ทางปัญญาของผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์
- ตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญา และสรุปสัญญาด้วยการลงนามเพื่อเสร็จสิ้น ขั้นตอนการทำสัญญาหากไม่มีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับรายละเอียดที่ได้ระบุ ไว้ในคำแถลงการเปิดเผยข้อมูล หรือเอกสารส่งเสริมการขาย
เลื่อนกำหนดการสรุปสัญญาในกรณีที่เกิดปัญหาระหว่างขั้นตอน
- ในกรณีที่ข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์ แตกต่างจากที่ระบุไว้ในคำแถลง การเปิดเผยข้อูมล หรือตรวจพบว่ามีปัญหาร้ายแรง เช่น สัญญาไม่ระบุประเด็นที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ก่อนหน้า กฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติในกรณีดังกล่าว คือรับรองข้อเท็จจริง และปรับเปลี่ยนข้อใดที่เป็นผลกระทบในสัญญา
· หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ไม่ทำการปรับเปลี่ยนข้อที่เป็นผลกระทบในสัญญา ให้ทำการเลื่อนกำหนด การเสร็จสิ้นการทำสัญญาออกไป
· หากยังไม่พ้นกำหนด 14 วันนับจากวันที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์จัดทำสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์ ให้กับผู้ประสงค์จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ เพื่อช่วยให้ผู้ที่จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ได้เข้าใจใน รายละเอียดของสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์เป็นการล่วงหน้า ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่กระทำการใด ๆ ดังต่อไปนี้ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」มาตรา 11(1))
1. รับชำระค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์จากผู้ประสงค์จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ในกรณีดังกล่าว หากผู้ประสงค์จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ได้ทำการนำฝากค่ามัดจำแฟรนไชส์ของเขา/เธอกับสำนักบัญชีรับฝากค่ามัดจำให้ถือว่าเขา/เธอได้รับค่ามัดจำแฟรนไชส์ดังกล่าวในวันแรก ที่นำฝากค่ามัดจำ หรือในวันที่ผู้ประสงค์จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ตกลงกับผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ ที่จะชำระมัดจำค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์งวดแรก หากมีการตกลงวันที่ชำระ)
2. การเข้าสู่การทำสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์กับผู้ประสงค์จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์
- หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ไม่สามารถจัดให้มีคำแถลงการเปิดเผยข้อมูล หรือยังไม่พ้นกำหนด 14 วัน (7 วันในกรณีที่ผู้ประสงค์จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ได้รับคำแนะนำ และข้อเสนอแนะโดยทนายความ หรือผู้ค้าแฟรนไชส์เกี่ยวกับคำแถลงการเปิดเผยข้อมูล) นับจากวันที่ที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ได้จัดให้มี คำแถลงการเปิดเผยข้อมูล ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์จะไม่สามารถเซ็นสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์กับผู้ประสงค์ จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」มาตรา 7(3))
มาตรการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
- ระงับการชำระค่ามัดจำแฟรนไชส์และยื่นคำร้องขอคืนเงิน
· หากเกิดปัญหากับธุรกิจแฟรนไชส์ก่อนเริ่มประกอบกิจการหลังทำสัญญาเสร็จสิ้น ให้ ① ยื่นคำร้อง ขอไกล่เกลี่ยกับคณะกรรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ② รายงานให้คณะกรรมการความเป็นธรรม ทางการค้าทราบ หรือ ③ ฟ้องร้องคดีทันทีก่อนยื่นคำร้องกับสำนักบัญชีรับฝากค่ามัดจำ ขอให้ ระงับการชำระค่ามัดจำแฟรนไชส์
· หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ไม่สามารถจัดให้มีคำแถลงการเปิดเผยข้อมูล การให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็น ที่สำคัญเกี่ยวกับผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ที่เป็นเท็จหรือเกินจริง หรือระงับการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ด้วยตนเอง ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์มีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอคืนค่ามัดจำแฟรนไชส์