ภาระการควบคุมด้านสุขอนามัยของผู้ดำเนินกิจการร้านทำเล็บ
การควบคุมด้านสุขอนามัย
- ช่างทำเล็บต้องต้องหมั่นดูแลรักษาสถานประกอบการ และอุปกรณ์เครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องของสถานประกอบการให้สะอาด และปลอดภัย ไม่ให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้มาใช้บริการ (「พระราชบัญญัติควบคุมสาธารณสุข」 มาตรา 4(1) และ (4))
· ต้องให้บริการเสริมความงามเล็บเป็นอย่างดี โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์และยา
· ต้องจัดเก็บเครื่องมืออุปกรณ์เสริมสวยที่ฆ่าเชื้อโรคแล้ว แยกออกจากอุปกรณ์ที่ไม่ต้องฆ่าเชื้อออกจากกัน ใช้ใบมีดโกนสำหรับลูกค้าเพียง 1 ครั้ง สำหรับลูกค้าเพียง 1 คนเท่านั้น
· ต้องติดใบอนุญาตช่างเสริมสวย (เล็บ) แสดงไว้ภายในสถานประกอบการ
การฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์เครื่องมือเสริมสวยเล็บ
- เกณฑ์และวิธีการฆ่าเชื้อสำหรับอุปกรณ์เครื่องมือเสริมสวยมีดังต่อไปนี้「พระราชบัญญัติควบคุมสาธารณสุข」 มาตรา 4(4) และ 「กฎระเบียบบังคับใช้กฎหมายควบคุมสาธารณสุข」 มาตรา 5 ภาคผนวก 3 และ 「เกณฑ์และวิธีการฆ่าเชื้อ สำหรับการใช้งานอุปกรณ์เสริมสวย」 (ประกาศกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ หมายเลข 2017-123 ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2017)]
ชื่ออุปกรณ์
|
ระดับความเสี่ยง
|
วิธีฆ่าเชื้อ
|
▪ ที่คั่นนิ้ว ▪ ลาเท็กซ์ ▪ พัฟ ▪ ฟองน้ำ
|
การแพร่เชื้อจากผู้ที่มีเชื้อโรค หรือการติดเชื้อด้วยตัวเอง
|
▪ เช็ดสิ่งแปลกปลอมด้วยพื้นผิวด้วยผ้า ▪ หลังจากทำความสะอาดให้แช่น้ำยาฆ่าเชื้อ เป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาที แล้วปล่อยน้ำล้างออก และเช็ดให้แห้ง ▪ ฆ่าเชื้อด้วยแสงอุลตร้าไวโอเลต แล้วเก็บในภาชนะแยกต่างหาก
|
การลงโทษการละเมิด
มาตรการทางการปกครอง
- นายกเทศมนตรีเขตเมืองพิเศษ เมืองใหญ่ ผู้ว่าการรัฐ(ต่อไปนี้จะเรียกว่า “นายกเทศมนตรี-ผู้ว่ารัฐ") หรือ นายกเทศมนตรี ผู้ว่าราชการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานเขต ต้องออกคำสั่งให้ผู้ดำเนินธุรกิจร้านทำเล็บที่ละเมิดภาระการควบคุมด้าน สุขอนามัย ให้ทำการปรับปรุงในทันที หรือในเวลาที่กำหนด แต่ไม่เกิน 6 เดือนในการปรับปรุง (「พระราชบัญญัติควบคุม สาธารณสุข」 มาตรา 10 วรรค 2 และ「กฎระเบียบบังคับใช้กฎหมายควบคุมสาธารณสุข」 มาตรา 17(1))
- นายกเทศมนตรี ผู้ว่าราชการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานเขต อาจมีอำนาจสั่งให้ผู้ดำเนินธุรกิจร้านทำเล็บที่ละเมิดต่อ ภาระการควบคุมด้านสุขอนามัย ให้ระงับกิจการ หรือระงับสถานประกอบการบางส่วน ภายในเวลาที่กำหนด แต่ไม่เกิน 6 เดือน หรือสั่งปิดสถานประกอบได้ (「พระราชบัญญัติควบคุมสาธารณสุข」 มาตรา 11(1) วรรค 4)
ค่าปรับทางปกครอง
- บุคคลใดที่ไม่ปฏิบัติตามภาระการควบคุมด้านสุขอนามัยของสถานประกอบการเสริมสวย เป็นการละเมิดต่อพระราชบัญญัติ ซึ่งต้องโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 2 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติควบคุมสาธารณสุข」 มาตรา 22(2) วรรค 2)
ระดับการควบคุมด้านสุขอนามัย
การประเมินระดับการควบคุมด้านสุขอนามัย
- เพื่อยกระดับการควบคุมด้านสุขอนามัยของสถานประกอบการร้านทำเล็บต่อสาธารณสุข นายกเทศมนตรี-ผู้ว่ารัฐ จะต้องจัดทำแผนการประเมินผลการให้บริการด้านสุขอนามัยและแจ้งให้กับนายกเทศมนตรี ผู้ว่าราชการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตรับทราบจากนั้นนายกเทศมนตรี ผู้ว่าราชการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตจะต้อง ทำรายละเอียดแผนการประเมินภายใต้พื้นที่ที่อยู่ในอำนาจการดูแล ให้เป็นไปตามแผนการประเมิน และทำการประเมิน ระดับการให้บริการด้านสุขอนามัยของสถานประกอบการที่มีต่อสาธารณสุข (「พระราชบัญญัติควบคุมสาธารณสุข」 มาตรา 13(1) และ (2))
- จะต้องจัดให้มีการประเมินระดับการให้บริการด้านสุขอนามัยทุก 2 ปี แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการจัดการดูแลเรื่อง สุขอนามัยของร้านทำเล็บเป็นพิเศษ รอบการประเมินอาจแตกต่างไปได้ (「พระราชบัญญัติควบคุมสาธารณสุข」 มาตรา 13(4) และ「กฎระเบียบบังคับใช้กฎหมายควบคุมสาธารณสุข」มาตรา 20 (ข้อความหลัก))
※ อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการธุรกิจยื่นการระงับธุรกิจตาม พระราชบัญญัติภาษีมูลค่าเพิ่มมาตรา 8(7) การประเมินการบริการจะถูกยกเลิกสำหรับธุรกิจด้านสาธารณสุขดังกล่าว) (พระราชกำหนดบังคับใช้กฎหมายมาตรา 20 (ข้อกำหนดเป็นเงื่อนไข) ของพระราชบัญญัติการควบคุมสาธารณสุข)
การเผยแพร่ระดับการควบคุมด้านสุขอนามัย
-นายกเทศมนตรี ผู้ว่าราชการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตจะต้องแจ้งให้ผู้ดำเนินธุรกิจร้านทำเล็บรับทราบถึงผลการ จัดระดับการควบคุมด้านสุขอนามัยของการประเมินการให้บริการด้านสุขอนามัย และตีพิมพ์การจัดระดับดังกล่าว (「พระราชบัญญัติควบคุมสาธารณสุข」 มาตรา 14(1))
- ช่างทำเล็บสามารถติดใบป้ายประกาศระดับการควบคุมด้านสุขอนามัย ณ ประตูทางเข้าออกของสถานประกอบการ พร้อมชื่อสถานประกอบการ (「พระราชบัญญัติควบคุมสาธารณสุข」 มาตรา 14(2))