มาตรการแก้ไข
มาตรการแก้ไข
- คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า อาจมีคำสั่งให้ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ ซึ่งกระทำการละเมิดต่อการนำฝากค่าธรรมเนียมผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ต่อไปนี้ ให้จัดการแถลงการเปิดเผยข้อมูล ชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของร้านค้า ส่งคืนค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ ไม่กระทำการละเมิดต่อไป จัดทำรายงานแผน หรือการปฏิบัติที่จำเป็นในการแก้ไขการละเมิด หรือดำเนินตามมาตรการอื่นที่จำเป้นในการแก้ไขการละเมิด (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 33(1))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ยื่นคำร้องขอชำระค่ามัดจำแฟรนไชส์ ในการละเมิดต่อข้อกำหนดสำหรับการนำฝากค่ามัดจำแฟรนไชส์ หรือด้วยการหลอกลวงหรือวิธีที่ไม่เหมาะสมอื่น (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(1) และ (4))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ไม่แถลงการเปิดเผยข้อมูลให้แก่ผู้ที่จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 7(3))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ให้ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือเกินจริง(「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 9(1))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ไม่คืนค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ภายในหนึ่งเดือน นับจากวันที่ที่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หรือผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ยื่นคำร้องขอคืนค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์เป็นลายลักษณ์อักษรด้วยมูลเหตุทางกฎหมาย (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 10(1))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ละเว้นประเด็นที่ต้องรวมอยู่ในสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 11(1) และ (2))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์กระทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12(1))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์บังคับให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ปรับปรุงสภาพแวดล้อมของร้านค้าอย่างไม่เป็นธรรม (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12-2(1) และ (2))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์จำกัดชั่วโมงทำการอย่างไม่เป็นธรรม (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12-3(1) และ (2))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ฝ่าฝืนพื้นที่ขายอย่างไม่เป็นธรรม (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12-4)
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ดำเนินการตอบโต้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12-5)
· กรณีดำเนินการผู้รับสิทธิแฟรนไชส์รับผิดชอบชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือบางส่วนของการโฆษณาหรือกิจกรรมประชาสัมพันธ์แต่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดแก่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์และไม่สามารถตรวจสอบได้ถึงแม้ว่าจะมีคำขอมาจากเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12-6(2))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ลงโทษผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ภายใต้ข้ออ้างเรื่องการก่อตั้ง สมาชิกภาพ กิจกรรมต่าง ๆ และอื่นๆของสมาคมผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ หรือทำสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์ ภายใต้เงื่อนไขที่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ต้องหรือต้องไม่เข้าร่วมสมาคมผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 14-2(5))
· ถึงแม้ว่าผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์จะไม่สามารถทำสัญญาการประกันการชดใช้ความเสียหาย หรือการประกันที่คล้ายกันเพื่อผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ได้ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ได้ใช้เครื่องหมายเพื่อระบุในลักษณะหลอกลวง ว่าผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ได้จัดทำสัญญาการประกันการชดใช้ความเสียหาย หรือเครื่องหมายที่คล้ายกัน (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 15-2(3) และ (6))
การประกาศและแจ้งต่อสาธารณะเรื่องคำสั่งการแก้ไข
- คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า อาจมีคำสั่งให้ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ทำการประกาศต่อสาธารณะว่าผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ได้รับคำสั่งแก้ไขหรือ ส่งหมายดังกล่าวให้แก่คู่ค้าทางธุรกิจ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 33(3))
การลงโทษต่อการไม่ตอบสนองต่อมาตรการแก้ไข
- หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ดำเนินตามมาตรการแก้ไข ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์จะต้องโทษจำคุกโดยใช้แรงงานไม่เกินสามปี หรือต้องโทษปรับไม่เกิน 100 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 41(2) อนุวรรค 2)
· เมื่อตัวแทนขององค์กร หรือตัวแทน ลูกจ้าง หรือคนงานอื่น ขององค์กร หรือบุคคลไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขององค์กร หรือบุคคล ไม่เพียงแต่ผู้กระทำผิดจะต้องถูกลงโทษแต่องค์กรหรือบุคคลจะต้องได้รับโทษโดยมีกำหนดโทษปรับ 100 ล้านวอนอย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดนี้ ไม่มีผลบังคับใช้ ในกรณีที่องค์กรหรือบุคคลให้ความใส่ใจอย่างจริงจัง ในการกำกับดูแลธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันไม่ให้กระทำผิดดังกล่าว (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 42)
การวางข้อกำหนดเบี้ยปรับเงินเพิ่ม
เบี้ยปรับเงินเพิ่ม
- หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์กระทำการละเมิดใดต่อไปนี้ สมาคมการค้าอย่างเป็นธรรม อาจวางข้อกำหนดเบี้ยปรับเงินเพิ่มกับผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ ที่นอกเหนือไปจากมาตรการแก้ไข (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 บทหลักมาตรา 35(1))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ยื่นคำร้องขอชำระค่ามัดจำแฟรนไชส์ ในการละเมิดต่อข้อกำหนดสำหรับการนำฝากค่ามัดจำแฟรนไชส์ หรือด้วยการหลอกลวงหรือวิธีที่ไม่เหมาะสมอื่น (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(1) และ (4))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ไม่จัดคำแถลงการเปิดเผยข้อมูลให้แก่ผู้ที่จะเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 7(3))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ให้ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือเกินจริง (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 9(1))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ไม่คืนค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ภายในหนึ่งเดือน นับจากวันที่ผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หรือผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ยื่นคำร้องขอคืนค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์เป็นลายลักษณ์อักษรด้วยมูลเหตุทางกฎหมาย (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 10(1))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ละเว้นประเด็นที่ต้องรวมอยู่ในสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 11(1) และ (2))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์กระทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12(1))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์บังคับให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ปรับปรุงสภาพแวดล้อมของร้านค้าอย่างไม่เป็นธรรม (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12-2(1) และ (2))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์จำกัดชั่วโมงทำการอย่างไม่เป็นธรรม (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรากที่ 12-3(1) และ (2))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ฝ่าฝืนพื้นที่ขายอย่างไม่เป็นธรรม (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12(4))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ดำเนินการตอบโต้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12-5)
· แม้ว่าผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์จะจัดกิจกรรมการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ โดยที่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์เป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือบางส่วนผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ไม่ได้แจ้งให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ทราบถึงรายละเอียดการดำเนินการ หรืออนุญาตให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์พิจารณารายละเอียดหากมีการร้องขอ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12-6(1))
· ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ลงโทษผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ภายใต้ข้ออ้างเรื่องการก่อตั้ง สมาชิกภาพ กิจกรรมต่าง ๆ และอื่น ๆ ของสมาคมผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ หรือทำสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ต้องหรือต้องไม่เข้าร่วมสมาคมผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 14-2(5))
· ถึงแม้ว่าผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์จะไม่สามารถทำสัญญาการประกันการชดใช้ความเสียหายหรือการประกันที่คล้ายกันให้แก่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ใช้เครื่องหมายเพื่อระบุในลักษณะหลอกลวงว่า ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ได้ทำสัญญาการประกันการชดใช้ความเสียหายหรือเครื่องหมายที่คล้ายกัน (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 15-2(3) และ (6))
※ อย่างไรก็ตาม หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ที่ทำการละเมิดดังกล่าว ไม่มีการขาย หรือมีปัญหาในการคำนวณยอดขาย หากไม่สามารถประกอบธุรกิจเนื่องจากการระงับธุรกิจ หากมีปัญหาในการคำนวณยอดขายที่เกี่ยวข้องเพราะไม่สามารถกำหนดระยะเวลาของการละเมิดน หรือหากมีปัญหาในการคำนวณยอดขายที่ตั้งเป้าไว้เพราะข้อมูลในการคำนวณยอดขายได้สูญหาย หรือถูกทำลายเพราะเหตุการณ์ภัยพิบัติ คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า อาจวางข้อกำหนดโทษปรับเพิ่มไม่เกิน 500 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 ยกเว้นในมาตรา 35(1) และ 「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 34(3))
วิธีคำนวณเบี้ยปรับเงินเพิ่ม
- เบี้ยปรับเงินเพิ่มจะคำนวณด้วยการคูณยอดขาย(ยอดขายของสินค้าหรือการขายบริการให้กับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หรือผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลาที่ทำการละเมิด (หมายถึงระยะเวลานับจากวันที่เริ่มการละเมิดจนถึงวันที่สุดท้ายของการฝ่าฝืนดังกล่าว) หรือจำนวนที่เทียบเท่า) เท่ากับร้อยละ 2 (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 35(1) และ 「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตาม พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 34(1))
- อย่างไรก็ตาม หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ที่กระทำการละเมิด ไม่มียอดขาย หรือมีปัญหาในการคำนวณยอดขาย คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า อาจวางข้อกำหนดเบี้ยปรับเงินเพิ่มไม่เกิน 500 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 ยกเว้นในมาตรา 35(1) และ 「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 34(3))
· กรณีไม่สามารถประกอบธุรกิจเพราะการระงับธุรกิจ เป็นต้น
· กรณีมีปัญหาในการคำนวณยอดขายที่เกี่ยวข้องเพราะไม่สามารถกำหนดระยะเวลาของการละเมิด
· กรณีมีปัญหาในการคำนวณยอดขายที่ตั้งเป้าไว้ เพราะข้อมูลในการคำนวณยอดขายได้สูญหาย หรือถูกทำลายเพราะเหตุการณ์ภัยพิบัติ เป็นต้น
การดำเนินการฟ้องคดี
การฟ้องคดีในชั้นศาล
- ในกรณีซึ่งผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ถูกสั่งให้ดำเนินตามมาตรการแก้ไข หรือต้องโทษเบี้ยปรับเงินเพิ่มตามที่คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้ากำหนด แต่คัดค้านคำสั่งดังกล่าว ก็อาจยื่นฟ้องคดีทางปกครองได้
ช่วงเวลาในการฟ้องคดีในชั้นศาล
- ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ซึ่งต้องการฟ้องคดีในชั้นศาลต้องดำเนินการภายใน30 วันนับจากวันที่ได้รับหมายแจ้งหรือได้รับคำตัดสินเป็นลายลักษณ์อักษร ของคณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า(「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 37(3) และ ของ「กฎหมายว่าด้วยระเบียบการควบคุมการผูกขาดและการค้าที่เป็นธรรม」 มาตรา 99(1))
เขตอำนาจศาลในการฟ้องคดี
- การฟ้องคดีทางปกครองต้องยื่นกับศาลสูงกรุงโซล(「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 37(3) และ 「พระราชบัญญัติการผูกขาดและการค้าที่เป็นธรรม」 มาตรา 100)