ขั้นตอนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ขั้นตอนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
- ในกรณีที่เกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับธุรกรรมทางธุรกิจแฟรนไชส์ ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์และผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ สามารถยื่นคำร้องขอดำเนินการไกล่เกลี่ย ต่อคณะไกล่เกลี่ยข้อพิพาทการทำธุรกรรมทางธุรกิจแฟรนไชส์ (ต่อไปนี้เรียกว่า "คณะฯ") คณะฯ ต้องจัดการกับข้อพิพาทตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
คำร้อง ขอไกล่เกลี่ย ข้อพิพาท (การยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ย ข้อพิพาท)
|
⇒
|
การ ประชุม ของ คณะฯ
|
⇒
|
การ จัดเตรียม พิธีการ ไกล่เกลี่ย
|
⇒
|
รายงานผล การไกล่เกลี่ย ของคณะฯ
|
คำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
คำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยคู่พิพาท
- คู่สัญญาทางธุรกิจแฟรนไชส์ เช่น ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ เป็นต้น (ต่อไปนี้เรียกว่า "คู่พิพาท") อาจแนบเอกสารที่ระบุประเด็นต่อไปนี้และยื่นคำร้องต่อคณะฯ เพื่อขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเพื่อแก้ไขข้อพิพาทที่เกี่ยวกับธุรกิจแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 22(1) และ 「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 19(1) และ (2))
· ชื่อและที่อยู่ของผู้ยื่นคำร้องและคู่กรณี (ในกรณีที่คู่พิพาทเป็นองค์กร ระบุชื่อขององค์กร ที่อยู่ของสำนักงานหลัก ชื่อและที่อยู่ของตัวแทนองค์กรดังกล่าว)
· ชื่อและที่อยู่ของตัวแทน ในกรณีแต่งตั้งตัวแทน
·เหตุผลในการยื่นคำร้อง
· ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ได้ทำการยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ในประเด็นเดียวกันกับคณะฯ อื่น
· ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ข้อพิพาท ได้รับหมายการยื่นคำร้องการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในประเด็นเดียวกัน
เอกสารแนบประกอบคำร้องขอไก่ลเกลี่ยข้อพิพาท
|
① เอกสารพิสูจน์เหตุผลและข้อเท็จจริงของการยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ② หนังสือมอบอำนาจ ในกรณีมอบอำนาจให้ตัวแทนยื่นคำร้อง ③ เอกสารหลักฐานหรือวัสดุอื่น ๆ ที่จำเป็นในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
|
- การยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทซ้ำ
· ในกรณีที่คู่พิพาทแยกคณะฯ ในยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หรือในกรณีที่คู่พิพาทยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยซ้ำหลายคณะฯ คณะฯ ที่เลือกโดยผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ที่เกี่ยวข้องจากคณะฯ ต่อไปนี้ จะเป็นคณะฯ ที่กำกับดูแลการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดังกล่าว (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 22(2))
1. คณะฯ ของ KOFAIR
2. คณะฯ ของกรรมการเมือง/อำเภอที่เป็นที่ตั้งของสถานประกอบธุรกิจหลักของผู้รับสิทธิแฟรนไชส์
3. คณะฯ ของกรรมการเมือง/จังหวัดที่เป็นที่ตั้งของสถานประกอบธุรกิจหลักของผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์
- ผลกระทบของการหยุดชะงักของอายุความเสียสิทธิ
· ใบคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทต้องมีผลกระทบต่อการหยุดชะงักของช่วงเวลา ที่นำไปสู่อายุความเสียสิทธิ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 บทหลักมาตรา 22(5))
· ในกรณีต่อไปนี้ ช่วงเวลาที่นำไปสู่อายุความเสียสิทธิที่หยุดชะงักกลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 22(7))
1. การเตรียมพิธีการไกล่เกลี่ยหลังจากการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเสร็จสิ้น
2. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเสร็จสิ้นด้วยความล้มเหลวในการไกล่เกลี่ย
· อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดก่อนหน้าไม่มีผลบังคับใช้ในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยถอนคำร้อง หรือถูกปฏิเสธ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 22(5))
※ ให้ถือว่าช่วงเวลาที่นำไปสู่อายุความเสียสิทธิหยุดชะงัก โดยการยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ในกรณีที่มีการเรียกร้องทางกฎหมายใด ๆ การเข้าร่วมในขั้นตอนล้มละลาย การยึดทรัพย์หรือการยึดทรัพย์ชั่วคราว หรือการแสดงข้อกำหนดชั่วคราวภายในหกเดือน (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 22(6))
- ยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยโดยคณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า
· คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าอาจขอให้คณะฯ ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่เกิดจากธุรกิจแฟรนไชส์ได้ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 22(3))
ภาคผนวกของการยื่นคำร้อง
- ภาคผนวกของการยื่นคำร้อง
· หากจำเป็นต้องจัดหาภาคผนวกของการยื่นคำร้องเพื่อการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ประธานคณะฯ ต้องให้ผู้ยื่นคำร้องจัดหาภาคผนวกภายในช่วงเวลาที่กำหนด (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 21(1))
- การแจ้งเรื่องต่อคู่พิพาท
· ทันทีที่ได้รับใบคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาท คณะฯ ต้องแจ้งให้คู่พิพาททราบถึงประเด็นในการไกล่เกลี่ยทันที, กรณีไกล่เกลี่ยผ่านองค์กรประสานงาน จะต้องแจ้งให้คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าทราบ, กรณีไกล่เกลี่ยผ่านคณะฯ การประชุมระดับเมือง·จังหวัด จะต้องแจ้งให้คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าและเมือง·จังหวัดทราบ(「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 22(4)).
- การแจ้งเรื่องการดำเนินการฟ้องคดี
· เมื่อคู่พิพาทดำเนินการฟ้องคดีว่าด้วยปัญหาที่เกี่ยวข้อง หลังยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หรือยืนยอมการอนุญาโตตุลาการ เขา/เธอจะต้องแจ้งให้คณะฯ ทราบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวทันที (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 27)
ประเด็นที่ต้องทราบเมื่อยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
- การเลือกตัวแทน
· เมื่อมีหลายบุคคลร่วมกันยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พวกเขาต้องเลือกตัวแทนไม่เกินสามคนจากกลุ่มผู้ยื่นคำร้อง ในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องเปลี่ยนตัวแทน พวกเขาต้องแจ้งให้ประธานคณะฯ ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 20(1) และ (3))
· ในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่สามารถเลือกตัวแทนได้ ประธานคณะฯ สามารถแนะนำตัวแทนให้พวกเขา (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 20(2))
- การสืบทอดตำแหน่งของคู่พิพาท
· ในกรณีที่คู่พิพาทไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยต่อเพราะเขา/เธอเสียชีวิต หรือสูญเสียศักยภาพ หรือเหตุผลอื่นก่อนการดำเนินการไกล่เกลี่ยเสร็จสิ้น คณะฯ อาจจัดให้มีบุคคลสืบทอดตำแหน่ง ของเขา/เธอตามกฎหมาย เพื่อทำหน้าที่สืบทอดตำแหน่งของคู่พิพาทเพื่อทำการไกล่เกลี่ยต่อไป (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 26)
การปฏิเสธหรือยกเลิกการไกล่เกลี่ย
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
- คณะฯ ต้องเริ่มขั้นตอนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททันที ที่ได้รับคำร้องขอไกล่เกลี่ย หรือขอให้ทำการไกล่เกลี่ย (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 23(1))
-คณะฯ อาจปฏิเสธการไกล่เกลี่ยได้ในกรณีดังต่อไปนี้ ในกรณีนี้คณะฯ จะต้องได้รับการยืนยันจากคณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าว่าการกระทำหรือเหตุการณ์ที่ได้รับการร้องขอให้ไกล่เกลี่ยนั้นอยู่ภายใต้ 3 ข้อด้านล่างหรือไม่ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 23(3))
1. ผู้ยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคือบุคคลที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง ในเนื้อหาของการยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ย
2.คำร้องขอไกล่เกลี่ยเป็นในเรื่องที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับ 「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」
3. คำร้องขอไกล่เกลี่ยในกรณีที่คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าได้เริ่มสอบสวนตาม「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」มาตรา 32-3 ข้อ 2 ก่อนที่จะมีคำร้องขอไกล่เกลี่ย อย่างไรก็ตาม กรณีนี้จะไม่ใช้บังคับหากการยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้ทำหลังจากได้รับมาตรหารการดำเนินการแก้ไขจากคณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า
การประชุมของคณะฯ
การยื่นคัดค้าน
- หากสมาชิกของคณะฯ ได้รับการพิจารณาแล้วว่าไม่อยู่ในตำแหน่ง ซึ่งสามารถทำการไกล่เกลี่ยได้อย่างเป็นธรรม คู่พิพาทต้องยื่นคัดค้านบทบาทของสมาชิกดังกล่าว กับทางคณะฯ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 20(2))
คำแถลงความคิดเห็น
- คู่พิพาทอาจเข้าเข้าร่วมประชุมคณะฯ เพื่อแสดงความเห็นของเขา/เธอหรือยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้อง (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 19(7))
การประชุมแบบปิด
- ตามหลักปฏิบัติ เนื้อหาของการประชุมคณะฯ ทั้งหมดต้องเก็บเป็นความลับ อย่างไรก็ตาม เมื่อประธานคณะฯ เห็นความจำเป็น เขา/เธอ อาจให้คู่พิพาทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ เข้าร่วมการประชุมได้ (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 18(2))
การปรากฎตัวของคู่พิพาท
- คณะฯ อาจขอให้คู่พิพาทยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้อง หรือปรากฏต่อหน้ากัน (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 23(6))
- ในกรณีที่คู่พิพาทไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมของคณะฯ ได้ด้วยตนเองเขา/เธออาจยื่นความคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรของเขา/เธอได้ล่วงหน้า (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 24(2))
การเพิกถอนการไกล่เกลี่ย
การเพิกถอนการไกล่เกลี่ย
- ในกรณีใดดังต่อไปนี้ คณะกรรมการต้องเพิกถอนขั้นตอนการไกล่เกลี่ย (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 23(4))
· หากการไกล่เกลี่ยได้ข้อสรุปเป็นที่สำเร็จ เพราะคู่พิพาทยอมรับคำแนะนำ หรือข้อเสนอการไกล่เกลี่ยของคณะฯ หรือไกล่เกลี่ยระหว่างกันเอง เป็นต้น
· หากการไกล่เกลี่ยไม่ได้ข้อสรุปภายใน 60 วัน (90 วันหากคู่พิพาทตกลงที่จะขยายระยะเวลา) หลังวันยื่นเรื่อง หรือยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ย
· หากคณะฯ ระงับการไกล่เกลี่ยและหากดำเนินขั้นตอนการไกล่เกลี่ยต่อไป ไม่ปรากฎว่ามีผลประโยชน์เป็นรูปธรรม
คำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขและมาตรการแก้ไข
- คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า จะไม่แนะนำหรือสั่งให้คู่กรณีดำเนินการแก้ไขข้อพิพาทจนกว่าขั้นตอนการไกล่เกลี่ยเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่ไม่ได้ดำเนินการแก้ไขก่อนการเริ่มขั้นตอนการไกล่เกลี่ยจะเสร็จสิ้น (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 23(7) และ 32-3(2))
การจัดเตรียมพิธีการไกล่เกลี่ย
การจัดเตรียมและรายงานการไกล่เกลี่ย
- เมื่อการไกล่เกลี่ยในประเด็นในการไกล่เกลี่ยเสร็จสิ้นด้วยผลสำเร็จ คณะฯ ต้องเตรียมพิธีการไกล่เกลี่ย โดยสมาชิกของคณะฯ ที่มีส่วนร่วมในการไกล่เกลี่ย และคู่พิพาทต้องลงชื่อและประทับตราเป็นสำคัญ หรือเขียนชื่อของตนเอง (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 24(1)) คณะฯ ต้องส่งรายงานผลการไกล่เกลี่ยไปให้คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า พร้อมกับสำเนาของพิธีการไกล่เกลี่ย (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 25)
- อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่คู่พิพาททำการประนีประนอมกับอีกฝ่ายหนึ่งและยื่นคำร้องขอให้เตรียมพิธีการไกล่เกลี่ยก่อนเริ่มขั้นตอนการไกล่เกลี่ย คณะฯ ต้องเตรียมพิธีการไกล่เกลี่ย (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 24(2))
การดำเนินการตามข้อตกลงและการส่งผลการดำเนินการ
- คู่กรณีจะต้องปฏิบัติตามรายการที่ได้ตกลงกันไว้ในการไกล่เกลี่ยและส่งผลการดำเนินการต่อคณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา24(3))
- คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าจะไม่ดำเนินการแก้ไขหรือแนะนำการดำเนินการแก้ไข หากมีการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่ไม่ได้ดำเนินการแก้ไขก่อนการเริ่มขั้นตอนการไกล่เกลี่ยและปฏิบัติตามรายการที่ตกลงกันไว้ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 24(4))
ผลกระทบของพิธีการไกล่เกลี่ย
- ในกรณีที่ได้เตรียมพิธีการไกล่เกลี่ย พิธีดังกล่าวจะมีผลกระทบเดียวกันกับการประนีประนอม ตามกฎหมาย (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 24(3))
การแจ้งผลการไกล่เกลี่ย
การแจ้งผลการไกล่เกลี่ย
- ในกรณีที่คณะฯ ปฏิเสธหรือยุติการไกล่เกลี่ยกรณีไกล่เกลี่ยผ่านองค์กรประสานงาน, กรณีไกล่เกลี่ยผ่านคณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าและเมือง·จังหวัดจะต้องจัดทำรายงานรายละเอียดการไกล่เกลี่ย การปฏิเสธการไกล่เกลี่ยหรือสาเหตุของการยุติการไกล่เกลี่ยที่เป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมกับเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แก่คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าและเมือง·จังหวัดที่เกี่ยวข้องโดยทันที และต้องแจ้งคู่พิพาทให้ทราบตามลำดับ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」มาตรา 23(5))
ข้อมูลทางกฎหมายที่เป็นประโยชน์ - 2
|
คำถาม. เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการไกล่เกลี่ย สถานะจะเป็นเช่นไร? คำตอบ. เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการไกล่เกลี่ย การดำเนินงานจะเริ่มต้น แม้กระทั่งในช่วงการไกล่เกลี่ย อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดดังกล่าว ไม่มีผลบังคับใช้ ในกรณีที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ได้ทำข้อตกลงเรื่องช่วงเวลาของการปฏิบัติงานหากไม่มีการดำเนินการในประเด็นที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกัน ข้อตกลง หรือพิธีการไกล่เกลี่ยจะไม่สามารถเป็นชื่อทางการบริหารที่สามารถดำเนินการในชั้นศาล ดังนั้น ผู้ยื่นต้องผ่านขั้นตอนทางกฎหมายที่ต่างกันเพื่อรับชื่อทางการบริหาร <ที่มา:สำนักงานการไกล่เกลี่ยทางการค้าที่เป็นธรรมแห่งประเทศเกาหลี (http://www.kofair.or.kr/goMain.do) - คำถามที่พบบ่อย>
|