THAI

แฟรนไชส์ (สัญญาธุรกิจแฟรนไชส์)
ข้อห้ามต่อหลักปฏิบัติด้านการค้าที่ไม่เป็นธรรม
ข้อห้ามต่อหลักปฏิบัติด้านการค้าที่ไม่เป็นธรรม
- ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่กระทำการ หรือทำให้องค์กรธุรกิจอื่น ๆ กระทำการใดดังต่อไปนี้ ที่ทำให้การประกอบธุรกิจของแฟรนไชส์อย่างเป็นธรรมต้องหยุดชะงัก (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12 「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 13(1) และภาคผนวก 2)
1. การปฏิเสธการทำธุรกรรม: ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่ระงับ หรือปฏิเสธที่จะจัดหาสินค้า บริการ การสนับสนุนและอื่นๆ เป็นการชั่วคราว หรือกระทำการใด ๆ เพื่อจำกัดการจัดหาเดียวกันโดยเด่นชัด ข้อกำหนดดังกล่าวได้รับการยกเว้นในกรณีที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ เนื่องด้วยเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ เช่น การฝ่าฝืนสัญญา และอื่น ๆ

ประเภท 

มาตรฐานโดยละเอียด 

ข้อห้ามในการปฏิเสธการสนับสนุนด้านการขาย และอื่น ๆ 

ในช่วงเวลาของการทำธุรกรรมทางธุรกิจ ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่ระงับ หรือปฏิเสธการจัดหาอสังหาริมทรัพย์ การบริการ อาคาร สินค้า วัตถุดิบ หรือวัสดุในการผลิตที่จำเป็น ให้แก่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ หรือยุติการให้การสนับสนุน และอื่น ๆในการจัดการ และกิจกรรมการขาย หรือกระทำการใด ๆ เพื่อจำกัดการจัดหาเดียวกันโดยเด่นชัด 

ข้อห้ามในการปฏิเสธ 

การต่ออายุสัญญา 

โดยไม่มีเหตุผลอันควร 

ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่ปฏิเสธการต่ออายุสัญญากับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ โดยไม่มีเหตุผลอันควร 

ข้อห้ามในการเพิกถอน 

สัญญา โดยไม่มีเหตุผลอันควร 

ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่เพิกถอนสัญญากับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ในช่วงเวลาสัญญายังมีผลบังคับใช้ โดยไม่มีเหตุผลอันควร  

2. ธุรกรรมที่มีเงื่อนไข: ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่ห้ามหรือจำกัดราคาสินค้าหรือบริการ คู่ค้าทางธุรกิจ พื้นที่การขาย หรือกิจกรรมทางธุรกิจของผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ โดยไม่มีเหตุผลอันควร

ประเภท 

มาตรฐานโดยละเอียด 

ข้อห้ามในการจำกัดราคา 

1. ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่กระทำการดังกล่าวโดยไม่มีมูลเหตุที่พิสูจน์ได้: ตรึงราคาสินค้าหรือบริการที่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ขาย และกำหนดให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ต้องรักษาราคาตามที่กำหนดจำกัดผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ในการกำหนดราคาของสินค้า หรือบริการโดยไม่มีเหตุผลอันควร บังคับให้กำหนดราคาขายโดยไม่ปรึกษากันล่วงหน้า 

2. อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดนี้ไม่มีผลบังคับใช้ในการกระทำต่อไปนี้: การกระทำเพื่อกำหนดราคาขายและแนะนำราคาเดียวกันกับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ร่วมกันปรึกษากับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ เพื่อกำหนดหรือแก้ไขราคาขายเป็นการล่วงหน้า 

ข้อห้ามในการจำกัดฝ่ายอื่นในการทำธุรกรรม 

1. ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่บังคับให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ทำการค้ากับฝ่ายใดก็ตาม (รวมไปถึงผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ด้วยกันเอง) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ การขาย การเช่าและอื่น ๆ ของอสังหาริมทรัพย์ บริการ อาคาร สินค้า วัตถุดิบ หรือวัสดุการผลิตโดยไม่มีเหตุผลอันควร 

2. อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดนี้ไม่มีผลบังคับใช้ในกรณี ดังนี้: เมื่อเป็นที่สังเกตเชิงรูปธรรมว่าอสังหาริมทรัพย์ บริการ อาคาร สินค้า วัตถุดิบ และวัสดุการผลิตดังกล่าว มีความสำคัญในการจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ เมื่อเป็นที่สังเกตเชิงรูปธรรมได้ว่า มีความยุ่งยากในการคุ้มครองเครื่องหมายการค้า ของผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ และในการรักษาอัตลักษณ์ของสินค้า หรือบริการหากผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ไม่ทำธุรกิจกับฝ่ายใด ในกรณีที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ทำสัญญากับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ หลังแจ้งให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ทราบล่วงหน้าถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องผ่านคำแถลงการเปิดเผยข้อมูล 

ข้อห้ามในการจำหน่าย สินค้าหรือบริการ 

ของผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ 

1. ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่ทำให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ขายสินค้า หรือบริการที่กำหนดหรือจำกัดการขายสินค้าหรือบริการขึ้นอยู่กับคู่สัญญาอีกฝ่ายในการทำธุรกรรมโดยไม่มีเหตุผลอันควร 

2. อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดนี้ไม่มีผลบังคับใช้ในกรณีต่อไปนี้: เมื่อเป็นที่สังเกตเชิงรูปธรรมว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก ในการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าของผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ และในการรักษาอัตลักษณ์ของสินค้าหรือบริการ หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์มีข้อจำกัดของสินค้าและบริการ ในกรณีที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ทำสัญญากับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ หลังแจ้งให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ทราบล่วงหน้าถึงข้อเท็จจริง ที่เกี่ยวข้องผ่านคำแถลงการเปิดเผยข้อมูล 

ข้อห้ามในการบีบบังคับ 

พื้นที่ขาย 

1. ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่บีบบังคับให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ปฏิบัติตามพื้นที่ขายโดยไม่มีเหตุผลอันควร 

2. อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดนี้ไม่มีผลบังคับใช้ตามการกระทำดังนี้: การกระทำที่ให้ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์กำหนดฐานการขาย การกระทำที่อนุญาตให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ขายในพื้นที่ นอกเหนือจากพื้นที่ขายของเขา/เธอ หากผู้รับสิทธิแฟรนไชส์บรรลุตามความรับผิดชอบในการขายของเขา/เธอในพื้นที่ขายของเขา/เธอ หรือการกระทำที่เป็นเหตุให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ต้องชำระค่าชดเชยเทียบเท่ากับต้นทุนในการประชาสัมพันธ์ เช่น ค่าโฆษณา และอื่น ๆ ให้แก่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์อีกราย ในพื้นที่นอกเหนือจากพื้นที่ขายของเขา/เธอ หากผู้รับสิทธิแฟรนไชส์มีความจำนงที่จะขายในพื้นที่ นอกเหนือจากพื้นที่ขายของเขา/เธอ 

ข้อห้ามอื่น ๆ ของกิจกรรมการขายของผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ 

1. ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่จำกัดกิจกรรมการขายใด ๆ ของผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ซึ่งเทียบเท่ากับการกระทำข้างต้น โดยไม่มีเหตุผลอันควร 

2. อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดนี้ไม่มีผลบังคับใช้ในกรณีต่อไปนี้: กรณีที่สังเกตเชิงรูปธรรมว่าเป็นเรื่องย่งยากในการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าของผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ และในการรักษาอัตลักษณ์ของสินค้าหรือบริการ หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์มีข้อจำกัดสินค้าและบริการ ในกรณีที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ทำสัญญากับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หลังแจ้งให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ทราบล่วงหน้าถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องผ่านคำแถลงการเปิดเผยข้อมูล 

3. การใช้สถานะทางธุรกรรมโดยมิชอบ: ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่ใช้ตำแหน่งที่มีส่วนร่วมในการทำธุรกรรมมิชอบดังต่อไปนี้ เพื่อทำให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์เสียเปรียบอย่างไม่เป็นธรรม (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12(1) อนุวรรค 3) อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดนี้ไม่มีผลบังคับใช้ในกรณีต่อไปนี้: กรณีสังเกตเชิงรูปธรรมว่า เป็นเรื่องยุ่งยากในการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าของผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ และในการรักษาอัตลักษณ์ของสินค้าหรือบริการ หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์มีข้อจำกัดสินค้าและบริการ ในกรณีที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ทำสัญญากับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หลังแจ้งให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ทราบล่วงหน้าถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องผ่านคำแถลงการเปิดเผยข้อมูล

ประเภท 

มาตรฐานโดยละเอียด 

ข้อห้ามในการบีบบังคับ 

ให้ซื้อ 

ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่บีบบังคับให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ทำการจัดซื้อหรือเช่าอาคาร อุปกรณ์ สินค้า บริการ วัตถุดิบ วัสดุในการผลิต และอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ หรือในจำนวนที่เกินกว่าที่กำหนด 

ข้อห้ามในการบีบบังคับ 

โดยที่ไม่มีเหตุผลอันควร 

ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่บีบบังคับให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์จัดหากำไรทางการเงินหรือเป็นออกค่าใช้จ่ายโดยไม่มีเหตุผลอันควร 

ในสัญญา 

โดยไม่มีเหตุผลอันควร 

ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่จัดทำหรือปรับข้อกำหนดในสัญญาที่ยากต่อการบังคับใช้หรือไม่เอื้อต่อผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ นอกจากนี้ ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่จัดทำหรือปรับข้อกำหนดในสัญญาที่ไม่เอื้ออย่างเด่นชัด เมื่อเทียบกับข้อกำหนดและเงื่อนไขในปัจจุบัน หรือข้อกำหนดและเงื่อนไขของแฟรนไชส์อื่น 

ข้อห้ามในการแทรกแซง 

การจัดการ 

ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่บังคับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ให้บริหารร้านแฟรนไชส์ด้วยบุคคอื่นใด โดยไม่มีเหตุผลอันควร 

ข้อห้ามในการบังคับ 

ยอดขาย 

ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่บังคับให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ตั้งยอดขายและบรรลุตามเป้า โดยไม่มีเหตุผลอันควร 

ข้อห้ามในการกำหนด 

ข้อเสียเปรียบ 

ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่กำหนดข้อเสียเปรียบกับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ซึ่งเทียบเท่ากับการกระทำข้างต้นโดยไม่มีเหตุผลอันควร 

4. การกำหนดภาระผูกพันในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยไม่มีเหตุผลอันควร: ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่กำหนดภาระผูกพันให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ต้องชดใช้ความเสียหาย หรือกำหนดค่าปรับที่เกินจริงเมื่อเทียบกับเกณฑ์ต่อไปนี้ เช่น วัตถุประสงค์และเนื้อหาของสัญญา และการขาดทุนที่จะเกิดขึ้น (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12(1) อนุวรรค 5 และ「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 ภาคผนวก 2 อนุวรรค 4)

ประเภท 

มาตรฐานโดยละเอียด 

การกำหนด 

ค่าปรับเกินจริง 

ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่ระบุข้อกำหนดในสัญญาในส่วนค่าปรับที่เกินจริง หรือกำหนดข้อกำหนดในลักษณะที่คล้ายกัน ดังนี้: สถานการณ์ที่นำไปสู่การยกเลิกสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์ ระดับความรุนแรงของความผิดที่มอบหมายให้แต่ละฝ่ายของธุรกิจแฟรนไชส์ ระยะเวลาที่เหลือของสัญญาธุรกิจแฟรนไชส์ ปริมาณความเสียหายของระยะเวลาที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ คาดว่าต้องใช้ในการทำสัญญากับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์รายใหม่ เมื่อเพิกถอนสัญญาก่อนหมดระยะสัญญา เป็นต้น 

ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่กำหนดข้อกำหนดในสัญญา สำหรับความเสียหายที่เกินจริงที่เกิดจากความล่าช้า หรือกำหนดข้อกำหนดเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับกรณีต่อไปนี้: สถานการณ์ที่นำไปสู่ความล่าช้าในการชำระค่าสินค้าหรือบริการ หลักปฏิบัติทั่วไปในการทำธุรกรรม เป็นต้น 

การเปลี่ยนภาระผูกพัน 

ด้านการชดใช้ 

ความเสียหาย 

ให้แก่ผู้บริโภค 

ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่กำหนดข้อกำหนดในสัญญา ให้เป็นภาระหน้าที่ของผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวน ในกรณีที่ผู้บริโภคได้รับความเสียหายจากความบกพร่องของสินค้าที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์เป็นผู้จัดหาให้กับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ 

ข้อกำหนด 

ที่ไม่มีเหตุผลอันควรอื่น ๆ ด้านการชดใช้ 

ความเสียหาย 

สำหรับกรณีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำเพื่อกำหนดตามข้อกำหนดตามสัญญาสำหรับการลงโทษที่มากเกินจริง หรือ การกำหนดข้อกำหนดเดียวกัน หรือ เปลี่ยนภาระหน้าที่การชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้บริโภค ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่ผลักภาระหรือเปลี่ยนภาระการชดใช้ความเสียหายของผู้บริโภคให้กับผูรับสิทธิแฟรนไชส์ โดยไม่มีเหตุผลอันควร 

5. การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมอื่น ๆ: ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการแทรกแซงธุรกรรมแฟรนไชส์ที่เป็นธรรม เช่น กำหนดข้อเสียเปรียบด้านยอดขาย กับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ของตนเอง หรือกับธุรกิจแฟรนไชส์ของคู่แข่ง ด้วยการโน้มน้าวให้ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ของตนเอง ทำการแข่งขันทางด้านธุรกรรมให้กับผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 12(1) อนุวรรค 6 และ「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 ภาคผนวก 2 อนุวรรค 5)
การลงโทษการละเมิด
- ในกรณีที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ปฏิบัติทางการค้าอันไม่เป็นธรรมต่อผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องถูกดำเนินการตามมาตรการแก้ไข ชำระเบี้ยปรับเงินเพิ่ม เป็นต้น (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 33, 34, 35 และ 41(2) อนุวรรค 2)