THAI

- กรณีใดดังต่อไปนี้ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์อาจขอยื่นคำร้องต่อหัวหน้าบัญชีรับฝากค่ามัดจำ เพื่อชำระค่ามัดจำแฟรนไชส์ได้ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(3))

- เมื่อผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ยื่นคำร้องต่อหัวหน้าบัญชีรับฝากค่ามัดจำ เพื่อขอชำระค่ามัดจำแฟรนไชส์ ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์จะต้องไม่ยื่นคำร้องด้วยวิธีที่หลอกลวงหรือไม่เหมาะสมอื่นใด (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(4))

- ในกรณีที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ยื่นคำร้องเพื่อขอชำระเงินค่ามัดจำแฟรนไชส์หัวหน้าบัญชีรับฝากค่ามัดจำจะต้องชำระค่ามัดจำแฟรนไชส์ให้กับเผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ภายในสิบวัน (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(3))

- อย่างไรก็ตาม กำหนดดังกล่าวไม่มีผลบังคับใช้ ในกรณีที่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อหัวหน้าบัญชีรับฝากค่ามัดจำ ซึ่งเขา/เธอได้ดำเนินมาตรการตามข้อกำหนดใดดังต่อไปนี้ก่อนพ้นกำหนดสองเดือน (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 ยกเว้นในมาตรา 6-5(3) อนุวรรค 2)

- กรณีใดดังต่อไปนี้หัวหน้าบัญชีรับฝากค่ามัดจำ ต้องระงับการชำระค่ามัดจำแฟรนไชส์ ให้กับผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(5))

- ในกรณีที่มีมูลเหตุในการระงับการชำระเงินเกิดขึ้น ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หรือผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ต้องยื่นคำร้องขอให้ระงับการชำระค่ามัดจำแฟรนไชส์เป็นลายลักษณ์อักษร ต่อหัวหน้าบัญชีรับฝากค่ามัดจำ พร้อมแนบเอกสารหลักฐานที่ระบุข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(5) และ 「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 5-9(2) และแบบฟอร์มภาคผนวกที่ 8)

- หัวหน้าบัญชีรับฝากค่ามัดจำ จะต้องระงับการชำระค่ามัดจำแฟรนไชส์ไปจนกว่าจะได้รับผลการตัดสินการไกล่เกลี่ย โดยคณะไกล่เกลี่ยข้อพิพาทการทำธุรกรรมทางธุรกิจแฟรนไชส์ การระงับข้อพิพาทอื่นใดซึ่งกระทำได้ หรือปฏิบัติตามมาตรการแก้ไขตามคณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้าถือเป็นที่สิ้นสุดและสรุป (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(6))

- หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ยื่นคำร้องขอชำระค่ามัดจำแฟรนไชส์ด้วยวิธีหลอกลวงหรือไม่เหมาะสม อื่นใด หัวหน้าบัญชีรับฝากค่ามัดจำต้องปฏิเสธคำขอดังกล่าว หรือจำเป็นต้องปรับเนื้อหาของคำร้อง (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(5) อนุวรรค 4)

- หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์, ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ หรือผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ มีความจำนงเพื่อยื่นคำร้องขอชำระหรือขอคืนค่ามัดจำแฟรนไชส์ ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ หรือผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ต้องยื่นคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อขอชำระหรือขอคืนค่ามัดจำแฟรนไชส์กับหัวหน้าบัญชีรับฝากค่ามัดจำ พร้อมเอกสารหลักฐานที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(6) และ 「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 5-9(3))

- หัวหน้าบัญชีรับฝากค่ามัดจำต้องชำระหรือคืนค่ามัดจำแฟรนไชส์กับผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ หรือผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ตามผลลัพธ์ภายใน 30 วันนับจากวันที่ของคำร้องขอชำระหรือขอคืน (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」มาตรา 6-5(6) และ 「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมาย ตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 5-9(3))

- อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ หรือผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ยื่นคำร้องขอคืนค่ามัดจำแฟรนไชส์ของเขา/เธอ โดยได้รับการยินยอมจากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ หัวหน้าบัญชีรับฝากค่ามัดจำต้องคืนค่ามัดจำให้กับผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หรือผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ภายในสิบวันนับจากวันที่ยื่นคำร้องดังกล่าว (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(7) และ 「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 5-9(4))