เงินมัดจำแฟรนไชส์
การวางมัดจำค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์
- ผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หรือผู้รับสิทธิแฟรนไชส์จะต้องฝากเงินค่าตอบแทนของค่า ธรรมเนียมแฟรนไชส์ที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขใดต่อไปนี้สำหรับข้ออ้างอิงเรื่องเงินมัดจำแฟรนไชส์ใน สถานที่รับฝาก (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(1))
· ค่าตอบแทนที่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ชำระให้แก่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์เพื่อขอรับใบอนุญาตในการ ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ หรือเพื่อรับการสนับสนุนและฝึกอบรมในกิจกรรมทางธุรกิจของเขา/เธอ (รวมถึงในกรณีที่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ชำระค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ก่อนทำสัญญา)
· ค่าตอบแทนที่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ชำระให้แก่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์เพื่อเป็นหลักประกันสำหรับการ ชำระหนี้หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากราคาซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งจัดหาโดย ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ (รวมถึงในกรณีที่ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ชำระค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ก่อนทำ สัญญา)
สถานที่รับฝากค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์
- สถานที่รับฝากซึ่งสามารถใช้เพื่อฝากเงินค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ได้ ตามรายชื่อสถาบันดังต่อไปนี้ (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 5-7)
· ธนาคารภายใต้「พระราชบัญญัติการธนาคาร」
· สำนักงานบริการไปรษณีย์ภายใต้「พระราชบัญญัติการออมและการประกันภัยทางไปรษณีย์」
· บริษัทประกันภัยภายใต้「พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจประกันภัย」
· องค์กรธุรกิจที่เชื่อถือได้ภายใต้「พระราชบัญญัติการบริการการลงทุนทางการเงินและตลาดทุน」
การวางมัดจำค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์อื่น ๆ
การยื่นคำร้องขอวางมัดจำค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์
- ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หรือผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์จะได้รับคำร้องขอวางมัดจำค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ และฝากค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์กับธนาคารตามผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์กำหนดไว้ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 บทหลักมาตรา 6-5(1) และ「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 5-8(1) และ (2) และแบบฟอร์มภาคผนวก 5)
การแจ้งการถือครองเงินมัดจำแฟรนไชส์
- ในกรณีที่ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ออกคำร้องขอการวางมัดจำค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ไปยัง ผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หรือผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์จะต้องแจ้งให้ ผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หรือผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ทราบข้อเท็จจริงที่ว่าเงินมัดจำแฟรน ไชส์จะตกเป็นของผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ในสถานการณ์ใด ๆ ดังต่อไปนี้ (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 6-5(3) และ「พระราชกำหนดการบังคับ ใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 5-8(3))
· เมื่อผู้รับสิทธิแฟรนไชส์เริ่มต้นดำเนินธุรกิจ
· เมื่อระยะเวลาผ่านไปสองเดือนนับตั้งแต่วันที่มีการปฏิบัติตามสัญญาแฟรนไชส์
ใบเสร็จรับเงินรับรองการวางมัดจำค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์
เอกสารรับรองการวางมัดจำค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์
- ผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หรือผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์วางเงินมัดจำแฟรนไชส์ หรือผู้รับสิทธิ แฟรนไชส์หรือผู้ประสงค์เข้าเป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์จะต้องออกเอกสารรับรองการวางมัดจำค่าธรรม เนียมแฟรนไชส์ (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมาย ตามพระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 5-8(5) และแบบฟอร์มภาคผนวก 6)
การลงโทษสำหรับการละเมิด
- หากผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์รับเงินมัดจำแฟรนไชส์โดยตรงจากผู้รับสิทธิแฟรนไชส์หรือผู้ประสงค์เข้า เป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์ ผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ต้องโทษจำคุกโดยใช้แรงงานเป็น เวลาไม่เกินสองปี หรือต้องโทษปรับไม่เกินห้าสิบล้านวอน (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 41(3) อนุวรรค 1)
- ในกรณีที่ตัวแทนของบริษัท ได้แก่ นายหน้า ลูกจ้าง หรือคนงานอื่นของบริษัท หรือองค์กรเอกชน กระทำความผิดใดก็ตามดังกล่าวข้างต้นเกี่ยวกับธุรกิจของ บริษัทหรือองค์กรเอกชน ไม่เพียงแต่ ผู้กระทำความผิดจะต้องโทษเท่านั้น แต่บริษัทหรือองค์กรเอกชนจะต้องโทษปรับ ไม่เกินห้าสิบล้านวอน อย่างไรก็ตาม การลงโทษนี้จะไม่นำไปใช้กับกรณีที่บริษัทหรือองค์กรเอกชนที่ให้ความ ใส่ใจ หรือกำกับดูแลธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างมากเพื่อป้องกันการกระทำผิดดังกล่าว (「พระราชบัญญัติธุรกรรมที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์」 มาตรา 42)