การแจ้งเตือนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อชำระค่าสินค้า
การแจ้งเตือนการทำธุรกรรมเพื่อชำระค่าสินค้า
- เมื่อมีการชำระค่าสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ประกอบการธุรกิจ ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ ต้องแจ้ง เตือนข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ผู้บริโภคทราบในทันที โดยวิธีการต่าง ๆ เช่น อีเมล โทรศัพท์ บริการข้อความสั้น (SMS) หรือโทรสาร นอกจากนี้ การให้บริการแจ้งเตือนค่าใช้จ่ายในวันที่กำหนดของแต่ละเดือน ต้องระบุรายละเอียดการทำ ธุรกรรม ค่าบริการ และรายละเอียดการติดต่อ (หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล เป็นต้น) สำหรับผู้ให้บริการแต่ละราย ที่ได้จัดหาสินค้า (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 8(3) และ「กฎระเบียบการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 5)
การลงโทษการละเมิด
- หากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนภายใต้ข้อกำหนดข้างต้น คณะกรรมความเป็นธรรมทางการค้า อาจมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการดังกล่าวดำเนินการตามมาตรการแก้ไขได้ หากมีการละเมิดซ้ำแม้ว่าจะได้มีคำสั่งให้ ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขแล้ว ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งมาตรการแก้ไข หรือมาตรการแก้ไขเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอต่อการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผู้บริโภค หรือไม่สามารถชดใช้ความเสียหายให้กับผู้บริโภคได้ คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า อาจสั่งให้ระงับการดำเนินธุรกิจทั้งหมดหรือบางส่วน ภายในกำหนด ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี หรือใช้มาตรการสั่งปรับกับผู้ประกอบการได้ (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 32(1) อนุวรรค 1 มาตรา 32(4) และมาตรา 34(1))
ภาระผูกพันในการเป็นสมาชิกในระบบเอสโครว์หรือการประกันการชดใช้ความเสียหายแก่ผู้บริโภค
ระบบการให้บริการความปลอดภัยในการซื้อสินค้า
- เมื่อผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์มีส่วนร่วมในการจัดจำหน่ายตามคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ แบบรับชำระเงิน ล่วงหน้า ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการได้รับชำระเงินส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก่อนการจัดส่งสินค้า ผู้ประกอบการ ต้องเป็นสมาชิกในระบบเอสโครว์ หรือทำการประกันชดใช้ความเสียหายแก่ผู้บริโภค เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้ รับประโยชน์จากการให้บริการความปลอดภัยในการซื้อสินค้า (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์์」 มาตรา 24(2))
Q. ฉันต้องเป็นสมาชิกในระบบเอสโครว์หรือทำการประกันการชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้บริโภคหรือไม่
A. ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ต้องเป็นสมาชิกในระบบเอสโครว์ หรือทำการประกันการชดใช้ค่าเสีย หายแก่ผู้บริโภค เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากบริการความปลอดภัยในการซื้อสินค้า
ระบบเอสโครว์ (ESCROW) คือ เครื่องมือความปลอดภัยสำหรับการทำธุรกรรม ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเอสโครว์ที่ได้รับ ความเชื่อมั่นอย่างแพร่หลาย (เช่น ธนาคาร บริษัท PG เป็นต้น) เป็นผู้เก็บรักษาเงินที่ผู้บริโภคชำระเพื่อซื้อสินค้า หากผู้บริโภคต้องการซื้อสินค้ามีความปลอดภัย และชำระเงินให้กับผู้ประกอบการ หลังจากที่ผู้ประกอบการห้าง สรรพสินค้าออนไลน์ได้จัดส่งสินค้าแล้ว
ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ ต้องลงนามในสัญญากับผู้ให้บริการเอสโครว์ล่วงหน้า ก่อนที่จะให้ผู้บริโภค เลือกและใช้ระบบเอสโครว์ เพื่อชำระเงินซื้อสินค้า ในกรณีที่ได้ลงนามในสัญญาแล้ว ผู้ประกอบการสามารถใช้ สัญลักษณ์ที่แสดงถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวได้ และผู้ประกอบการต้องละเว้นการใช้สัญลักษณ์ หรือจัดทำ หรือใช้ สัญลักษณ์ในลักษณะใกล้เคียง กับสัญลักษณ์ดังกล่าว หากระบบเอสโครว์ยังไม่พร้อมให้บริการ
การประกันการชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้บริโภค ได้ออกแบบมาเพื่อชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้บริโภค ในความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการที่ไม่ได้รับสินค้าหลังการชำระเงิน และถือเป็นสัญญาการประกัน ตาม「พระราชบัญญัติธุรกิจประกันภัย」หรือสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ตามมาตรา 38 แห่ง「พระราชบัญญัติจัดตั้ง คณะกรรมการบริการทางการเงิน」
การลงโทษการละเมิด
- ผู้ใดไม่เปิดระบบเอสโครว์ หรือไม่สมัครการประกันการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้บริโภคแม้ผู้ประกอบการดังกล่าว จะมีภาระผูกพันที่ต้องปฏิบัติหรือไม่ก็ตาม ต้องโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 10 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 45(3) อนุวรรค 4)
- หากผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเกี่ยวกับระบบเอสโครว์ หรือการประกัน การชดใช้ ความเสียหายให้แก่ผู้บริโภค คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า อาจมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการนั้น ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขได้ หากมีการละเมิดซ้ำแม้ว่าจะได้มีคำสั่งให้ดำเนินมาตรการแก้ไขแล้ว ไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งมาตรการแก้ไข หรือมาตรการแก้ไขเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผู้บริโภค หรือไม่สามารถชดใช้ความเสียหายให้กับผู้บริโภคได้ คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า อาจสั่งให้ระงับการ ดำเนินธุรกิจทั้งหมดหรือบางส่วน ภายในกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี หรือใช้มาตรการสั่งปรับกับผู้ประกอบการได้ (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 32(1) อนุวรรค 1 มาตรา 32(4) และมาตรา 34(1))