ภาระผูกพันในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ และข้อกำหนดของการทำธุรกรรม
ประเด็นที่จะบ่งชี้ โฆษณา แจ้งเตือนหรือมอบให้
- ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ จะต้องบ่งชี้ โฆษณา แจ้งเตือนหรือมอบการทำธุรกรรม ผลิตภัณฑ์ในแบบที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคสามารถเข้าใจข้อมูลได้อย่างชัดเจนก่อนทำสัญญา และลงนามในข้อตกลงโดยไม่มีข้อผิดพลาดหรือความคลาดเคลื่อนใดเกิดขึ้น (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 13(2))
- เมื่อสรุปทำสัญญาแล้ว ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ต้องมอบเอกสารต่าง ๆ (รวมถึงเอกสารในรูปแบบ อิเล็กทรอนิกส์และจะมีผลเช่นเดียวกันในภายหลัง) เกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆ ให้กับคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ก่อนที่จะจัดหาผลิตภัณฑ์ตามที่ระบุในสัญญา (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 13(2))
การลงโทษการละเมิด
- ผู้ใดให้ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับตัวตนของผู้ดำเนินธุรกิจ หรือเกี่ยวกับข้อกำหนดของการทำธุรกรรมทางธุรกิจ จะต้องโทษปรับไม่เกิน 10 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 43 อนุวรรค 1 และ 2)
- ผู้ที่ไม่บ่งชี้ โฆษณา แจ้ง หรือมอบข้อกำหนดของการทำธุรกรรม ก่อนหรือทันที่ที่มีการเข้าทำสัญญา แล้ว ผู้ประกอบการดังกล่าว ① ต้องโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 5 ล้านวอน และ ②คณะกรรมการ ความเป็นธรรมทางการค้า อาจมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการดังกล่าวดำเนินการตามมาตรการแก้ไข หากผู้ประกอบการ ดังกล่าวยังคงไม่บ่งชี้ โฆษณา แจ้ง หรือมอบข้อกำหนดของการทำธุรกรรม แม้ว่าจะมีคำสั่งให้ ดำเนินการตามมาตรการแก้ไข ผู้ประกอบการดังกล่าวอาจถูกสั่งให้ระงับการดำเนินธุรกิจทั้งหมดหรือบางส่วน และอาจถูกสั่งปรับได้ (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 32(1) อนุวรรค 1 มาตรา 32(4) มาตรา 34(1) และมาตรา 45(4) อนุวรรค 4)
ข้อควรระวังในการส่งต่อข้อมูลโฆษณาเพื่อประโยชน์ทางการค้า
การให้ความยินยอมล่วงหน้าสำหรับการส่งต่อข้อมูลโฆษณาโดยใช้ตัวกลางส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
- หากผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์มีความประสงค์ที่จะส่งต่อข้อมูลโฆษณาเพื่อผลกำไร โดยใช้ตัวกลาง ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ประกอบการดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตโดยชัดแจ้งจากผู้รับที่จะได้รับข้อมูลโฆษณา นั้นก่อน (「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」บทบัญญัติหลักของมาตรา 50(1))
· เว้นแต่ อยู่ภายใต้กรณีดังต่อไปนี้ ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ไม่ต้องได้รับความยินยอมล่วงหน้า (「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」เงื่อนไขตามมาตรา 50(1) และ「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสาร สนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 61(1))
√ เมื่อบุคคลผู้รวบรวมข้อมูลการติดต่อโดยตรงจากผู้รับในการตกลงเป็นต้นว่าการซื้อขายสินค้า ด้วยประสงค์ที่จะส่งข้อมูลโฆษณาเพื่อหวังผลกำไรจากสินค้าประเภทเดียวกัน ดังเช่นที่ได้จัดการและได้ทำการตกลงซื้อขายร่วมกับผู้รับภายในเวลา 6 เดือนนับจากวันที่การทำธุรกรรมดังกล่าวเสร็จสิ้น
√ เมื่อพนักงานขายของทางโทรศัพท์ภายใต้「พระราชบัญญัติว่าด้วยการขายสินค้าตามบ้าน」แจ้งให้ลูกค้าเป้าหมาย รับทราบถึงแหล่งการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลทางเสียง หรือชักชวนให้ลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ทางโทรศัพท์
· ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตจากผู้รับก่อนหรือไม่ผู้ที่ประสงค์จะส่งข้อมูลโฆษณาเพื่อผลกำไรโดยใช้ตัวกลางส่งข้อมูล ทางอิเล็กทรอนิกส์ ในช่วงเวลา 21.00 น. ถึง 08.00 น. ของวันถัดไป ต้องได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้ง จากผู้รับข้อมูลดังกล่าวล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม ความข้างต้นไม่มีผลบังคับใช้กับการส่งข้อมูลทางจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ (「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล มาตรา 50(3) 」 และ「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสาร สนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 61(2))
- ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ประสงค์จะส่งข้อมูลโฆษณาเพื่อทำกำไร โดยใช้ตัวกลางส่งข้อมูลแบบ อิเล็กทรอนิกส์ ต้องแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้แก่ผู้รับ ภายใน 14 วัน นับจากวันที่ผู้รับแสดงความยินยอมโดยชัดแจ้ง ว่าจะรับข้อความ หรือปฏิเสธที่จะรับข้อความ หรือเพิกถอนความยินยอมที่จะรับข้อความ (「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 50(7) และ「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสาร สนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 62-2)
√ ชื่อผู้ส่ง
√ ข้อเท็จจริงที่ว่าผู้รับได้ยินยอมที่จะรับข้อความ ปฏิเสธที่จะรับข้อความ หรือเพิกถอนความยินยอมที่จะรับ ข้อความ และวันที่ผู้รับได้แสดงความประสงค์ดังกล่าว
√ ผลลัพธ์ของการจัดการตามประสงค์ของผู้รับ
- ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากผู้รับ ต้องดำเนินการตรวจสอบเป็นประจำทุก 2 ปี เพื่อยืนยันว่าผู้รับยังคงยินยอมที่จะรับข้อความ นับจากวันที่ผู้ประกอบการได้รับความยินยอมจากผู้รับในการ รับข้อมูล (หมายถึง วันก่อนวันกำหนด 2 ปี ซึ่งนับจากวันที่ได้รับความยินยอมจากผู้รับในการรับข้อมูล) (「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 50(8) และ「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสาร สนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 62-3(1))
- ผู้ใดละเมิดไม่ปฏิบัติตามภาระผูกพันดังกล่าว ต้องโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 30 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 76(1) อนุวรรค 7)
ข้อห้ามในการส่งต่อการโฆษณาไปยังผู้ที่ปฏิเสธการรับโฆษณาดังกล่าว
- เมื่อผู้รับได้แสดงเจตนาที่จะปฏิเสธการรับข้อมูลหรือเพิกถอนความยินยอมก่อนหน้าในการรับข้อมูล ห้ามไม่ให้ผู้ ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ซึ่งประสงค์ที่จะส่งข้อมูลโฆษณาเพื่อผลกำไร โดยการใช้ตัวกลางส่งข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ ส่งข้อมูลโฆษณาเพื่อผลกำไรไปยังผู้รับดังกล่าว (「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 50(2))
- ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ประสงค์จะส่งข้อมูลโฆษณาเพื่อผลกำไร โดยใช้ตัวกลางส่งข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ ต้องแจ้งให้ผู้รับทราบถึงชื่อผู้ส่ง ข้อเท็จจริงที่ว่าผู้รับได้ปฏิเสธที่จะรับข้อความ หรือได้เพิกถอนความ ยินยอมที่จะรับข้อความก่อนหน้า และวันที่ผู้รับได้แสดงเจตนาดังกล่าว และผลลัพธ์ของการจัดการตาม ความประสงค์ของผู้รับ ภายใน 14 วัน นับจากวันที่ผู้รับได้แสดงความประสงค์ไม่รับข้อความหรือเพิกถอน ความยินยอมก่อนหน้า (「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 50(7) และ「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสาร สนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 62-2)
- การลงโทษการละเมิด
· ผู้ใดส่งต่อข้อมูลโฆษณาเพื่อกำไรแก่ผู้บริโภค โดยที่ผู้บริโภคได้แสดงความประสงค์โดยชัดแจ้ง ว่าปฏิเสธที่จะรับ ข้อความดังกล่าว ต้องโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 30 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 76(1) อนุวรรค 7)
· ผู้ใดส่งข้อมูลโฆษณาเพื่อการค้าแก่ผู้บริโภคที่ได้ลงทะเบียนในระบบว่าได้ปฏิเสธการรับโฆษณา ① ต้องโทษปรับ ทางปกครอง ไม่เกิน 10 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 45(3) อนุวรรค 7) และ ② คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า สามารถออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการ ดังกล่าว ดำเนินการตามมาตรการแก้ไข หรือสั่งปรับผู้ประกอบการดังกล่าวได้ หากผู้ประกอบการดังกล่าว ไม่ดำเนินการมาตรการแก้ไข คณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า อาจออกคำสั่งให้ระงับการดำเนินธุรกิจ ทั้งหมดหรือบางส่วน (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 32(1) อนุวรรค 1 มาตรา 32(4) และมาตรา 34(1))
ข้อห้ามใช้มาตรการที่เป็นอันตรายสำหรับการส่งข้อมูลโฆษณา
- ห้ามมิให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ ซึ่งส่งต่อข้อมูลโฆษณาเพื่อผลกำไร โดยใช้ตัวกลางส่งข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ ใช้มาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ (「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 50(5))
· มาตรการหลีกเลี่ยงหรือแทรกแซงการปฏิเสธของผู้รับที่จะไม่ประสงค์รับข้อความ หรือการเพิกถอนความยินยอม ที่จะรับข้อมูลโฆษณา
· มาตรการการสร้างข้อมูลการติดต่อของผู้รับโดยอัตโนมัติ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล โดยรวมตัวเลข รหัส หรือข้อความ
· มาตรการการลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์ หรือที่อยู่อีเมลโดยอัตโนมัติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งต่อข้อมูลโฆษณา เพื่อทำกำไร
· มาตรการต่างในการปกปิดตัวตนของผู้ส่งข้อมูลโฆษณาหรือแหล่งที่มาที่มีการส่งออกข้อมูลโฆษณา
· มาตรการต่าง ๆ ในการกระตุ้นให้ผู้รับตอบกลับ โดยหลอกลวงผู้รับ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งต่อข้อมูลโฆษณา เพื่อผลกำไร
- ผู้ใดละเมิดข้อห้ามเหล่านี้ ต้องโทษจำคุกโดยใช้แรงงาน ไม่เกิน 1 ปี หรือโทษปรับไม่เกิน 10 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 มาตรา 74(1) อนุวรรค 4)