ภาระผูกพันในการนำเสนอระบุผู้ดำเนินการห้างสรรพสินค้าออนไลน์
ประเด็นในการนำเสนอ
- เมื่อดำเนินการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ ต้องนำเสนอข้อมูลกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง บนหน้าแรก ของห้าง เพื่อให้ง่ายต่อผู้บริโภคในการระบุทราบตัวตนของผู้ดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อตกลงผู้ใช้งาน ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ อาจจัดทำเป็นลิงค์เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าไปยังหน้ารายละเอียดดังกล่าวได้ (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 10(1) และ「กฎระเบียบการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 7(1))
การลงโทษการละเมิด
- ผู้ใดละเมิดต่อการปฏิบัติตามหน้าที่ของตน จะต้องโทษปรับทางปกครอง และให้คณะกรรมการความเป็นธรรมทาง การค้า อาจมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการดังกล่าวต้องดำเนินการตามมาตรการแก้ไข ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งแก้ไข อาจถูกสั่งปรับ แทนการสั่งระงับการดำเนินธุรกิจทั้งหมดหรือบางส่วน (「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 มาตรา 45(4) มาตรา 32(1) และมาตรา 34(1))
ภาระผูกพันในการเตรียมและอธิบายข้อกำหนดและเงื่อนไข
ความหมายของข้อกำหนดและเงื่อนไข
- หากผู้ประกอบการและลูกค้า มีความเห็นพ้องในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ซึ่งต่างจากที่ระบุในข้อกำหนดและเงื่อนไข ให้ถือว่าความเห็นพ้องดังกล่าว อยู่เหนือข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่าว (「พระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องระเบียบ ของข้อกำหนดและเงื่อนไข」 มาตรา 4)
ภาระผูกพันในการแจ้ง นำส่ง และอธิบายข้อกำหนดในเงื่อนไข
- ผู้ประกอบการต้องแจ้งแก่ลูกค้าของตนซึ่งรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง ในลักษณะทั่วไปที่คาด หวังได้สำหรับสัญญาประเภทนั้น และในกรณีที่ลูกค้าร้องขอ ให้ผู้ประกอบการจัดส่งสำเนาข้อกำหนดและเงื่อนไข แก่ลูกค้า (「พระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องระเบียบ ของข้อกำหนดและเงื่อนไข」 มาตรา 3(2))
- ต้องระบุรายละเอียดที่สำคัญของข้อกำหนดและเงื่อนไขให้อยู่ในลักษณะที่ผู้บริโภคสามารถเข้าใจได้ ทั้งนี้ ภาระผูกพัน ในส่วนนี้ไม่นำมาใช้กับกรณีที่มีความยุ่งยากในการทำความเข้าใจ อันเนื่องมาจากลักษณะของสัญญา (「พระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องระเบียบ ของข้อกำหนดและเงื่อนไข」 มาตรา 3(3))
- ผู้ใดละเมิดภาระผูกพันดังกล่าว จะต้องโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 5 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่อง ระเบียบของข้อกำหนดและเงื่อนไข」 มาตรา 34(3) อนุวรรค 1 และ 2) และห้ามไม่ให้ผู้ที่เข้าทำสัญญาละเมิดต่อ ภาระผูกพันข้างต้น โดยอ้างข้อกำหนดหรือเงื่อนไขดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา (「พระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องระเบียบ ของข้อกำหนดและเงื่อนไข」 มาตรา 3(4))
การใช้ข้อกำหนดและเงื่อนไขมาตรฐาน
- ผู้ประกอบการธุรกิจห้างสรรพสินค้าออนไลน์ อาจเตรียมข้อกำหนดและเงื่อนไข โดยใช้ข้อก「หนดและเงื่อนไข มาตรฐานสำหรับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (อินเทอร์เน็ตไซเบอร์มอลล์)」(ที่กหนดโดยคณะกรรมการความเป็นธรรมทางการค้า ข้อกำหนดและเงื่อนไขมาตรฐานของคณะกรรมการความเป็นธรรม ทางการค้า เลขที่ 10023 ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ 2015.6.26)
- ผู้ใดอาศัยข้อกำหนดและเงื่อนไขมาตรฐาน ในขณะที่ใช้ข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่นใดของสัญญา ที่แตกต่างจากข้อ กำหนดและเงื่อนไขมาตรฐาน ในการละเมิดต่อภาระผูกพันดังกล่าว ต้องโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 50 ล้านวอน (「พระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องระเบียบ ของข้อกำหนดและเงื่อนไข」 มาตรา 34(1) อนุวรรค 1)ข้อกำหนดและ เงื่อนไขใดของสัญญา เป็นเหตุให้ลูกค้าเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากกว่าข้อกำหนดและเงื่อนไขมาตรฐาน ให้ถือว่าข้อ กำหนดและเงื่อนไขดังกล่าวไม่มีผลบังคับใช้ (「พระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องระเบียบ ของข้อกำหนดและเงื่อนไข」 มาตรา 19-3(9))
ภาระผูกพันในการเปิดเผยนโยบายเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต่อสาธารณชน
การจัดเตรียมนโยบายว่าด้วยการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ต้องจัดทำนโยบายเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งต่อไปในบทบัญญัตินี้จะเรียกว่า “นโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”) โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้ (「แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล」 มาตรา 30(1) และ「แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบังคับใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล」และมาตรา 31(1)).
· วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
· ระยะเวลาในการประมวลผลและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
· เนื้อหาว่าด้วยการส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่3 (ในกรณีที่เหมาะสมเท่านั้น)
· ขั้นตอนการทำลายและวิธีการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล (ในกรณีที่จำเป็นต้องรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงหลักในการเก็บรักษาและรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรักษา)
· เนื้อหาว่าด้วยการมอบหมายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (ในกรณีที่เหมาะสมเท่านั้น)
· เนื้อหาว่าด้วยสิทธิ์และข้อผูกพันของเจ้าของข้อมูลและผู้แทนโดยชอบธรรมและการใช้สิทธิ์นั้น
· ชื่อของบุคคลผู้มีหน้าที่ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือชื่อและข้อมูลติดต่อของแผนกที่ดูแลเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงการร้องเรียนที่เกี่ยวข้อง
· เนื้อหาว่าด้วยการติดตั้ง การใช้งานและการปฏิเสธอุปกรณ์ที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติเป็นต้นว่าไฟล์ข้อมูลการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต (ในกรณีที่เหมาะสมเท่านั้น)
· รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่จะนำไปประมวลผล
· เนื้อหาว่าด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
การเปิดเผยนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- เมื่อผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์ได้จัดทำหรือปรับปรุงแก้ไขนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว ให้เผยแพร่นโยบายดังกล่าวบนเว็บไซต์หน้าแรกของผู้ดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อมูลดังกล่าวได้ (「แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและ」มาตรา 30(2) และ「แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบังคับใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล」มาตรา 31(2)).
- หากไม่สามารถเผยแพร่นโยบายที่จัดทำขึ้นหรือที่ปรับปรุงแก้ไขบนเว็บไซต์หน้าแรกได้ ให้นำนโยบายดังกล่าวไปเปิดเผยด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งดังต่อไปนี้ (「แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและ」มาตรา 30(2) และ「แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบังคับใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล」มาตรา 31(3)).
· วิธีติดประกาศเผยแพร่เอาไว้ในจุดที่มองเห็นได้ง่ายเป็นต้นว่าที่ทำงานของผู้ดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
· วิธีเผยแพร่โดยตีพิมพ์ลงหนังสือประกาศทางราชการ(ในกรณีที่ผู้ดำเนินการประมวลผลเป็นหน่วยงานภาครัฐเท่านั้น)หรือลงหนังสือพิมพ์รายวันทั่วไป หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ทั่วไปหรือหนังสือพิมพ์ออนไลน์ซึ่งมีพื้นที่การกระจายข่าวสารอยู่ในตัวเมืองหรือผู้มีตำแหน่งสูงในเขตอำนาจที่ธุรกิจตั้งอยู่
· วิธีเผยแพร่โดยตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องลงในวารสาร หนังสือพิมพ์ เอกสารประชาสัมพันธ์ หรือในใบเรียกเก็บเงินที่ออกอย่างน้อย2 ครั้งต่อปีโดยใช้หัวข้อเดียวกันแล้วแจกจ่ายให้แก่เจ้าของข้อมูล
· วิธีเผยการบันทึกหรือใส่ข้อมูลนโยบายเอาไว้ในการทำสัญญาซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าออนไลน์กับผู้ใช้งานก่อนที่จะส่งมอบให้
การลงโทษการละเมิด
- ผู้ใดไม่ได้จัดทำหรือไม่เปิดเผยนโยบายเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ต้องระวางโทษปรับทางปกครองไม่เกิน 10 ล้านวอน (「แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล」มาตรา 75(4)อนุวรรค 7).