THAI

การทำธุรกิจร้านเสริมสวย – การดำเนินงาน
การเลือกทำเลที่ตั้งและเขตการค้าที่เหมาะสม
อาคารที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจร้านเสริมสวย
- ธุรกิจร้านเสริมสวยจะได้รับอนุญาตให้ประกอบได้ในอาคารที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ที่อยู่อาศัยประเภท 1 เท่านั้น (「พระราชบัญญัติอาคาร」 มาตรา 2(2) และ「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายอาคาร」 มาตรา 3-5)
เขตพื้นที่ใช้งานเฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจร้านเสริมสวย
- การประกอบธุรกิจร้านเสริมสวยได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจได้ในพื้นที่โดยไม่มีข้อจำกัด เว้นแต่พื้นที่ใช้งานเฉพาะดังต่อไปนี้ ตาม「พระราชบัญญัติผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดินแห่งชาติ」 (「พระราชบัญญัติผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดินแห่งชาติ」 มาตรา 76(1) และ「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดินแห่งชาติ」 มาตรา 71(1))

พื้นที่ใช้งานเฉพาะ 

ข้อจำกัด 

▪ พื้นที่อยู่อาศัยพิเศษ ประเภท 1 

▪ พื้นที่อยู่อาศัยพิเศษ ประเภท 2 

 ถ้าร้านเสริมสวยมีพื้นที่ทั้งหมดไม่เกิน 1,000㎡ ก็สามารถเปิดทำธุรกิจได้ (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดินแห่งชาติ」 ภาคผนวก 2 วรรค 1(ข) และ ภาคผนวก 3 วรรค 1(ค)) 

▪เขตอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว 

หากเป็นพื้นที่ที่กฎหมายการวางผังเมืองและการทหารในท้องถิ่นกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียว จะต้องอนุญาตในการก่อสร้าง และร้านเสริมสวยจะต้องมีพื้นที่ทั้งหมดไม่เกิน 500㎡ (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดินแห่งชาติ」 ภาคผนวก 15 วรรค 2(ข)) 

▪ พื้นที่จัดการอนุรักษ์ 

▪ พื้นที่จัดการการผลิต 

▪ พื้นที่เกษตรกรรมและป่าไม้ 

ว่าด้วยเทศบัญญัติการวางผังเมืองและการทหารของพื้นที่ จะต้องอนุญาตให้มีก รก่อสร้างอาคารเป็นประเภท 1 ในพื้นที่อยู่อาศัยใกล้เคียง (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดินแห่งชาติ」 ภาคผนวก 18 วรรค 2(ก), ภาคผนวก 19 วรรค 2(ข) และ ภาคผนวก 21 วรรค 2(ก)) 

▪ พื้นที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ 

ห้ามมิให้ประกอบธุรกิจ (「พระราชกำหนดการบังคับใช้กฎหมายผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดินแห่งชาติ」 ภาคผนวก 22) 

※ นอกเหนือจากพื้นที่เฉพาะด้านบนแล้ว อนุญาตให้ใช้พื้นที่อื่น ๆ ในการประกอบธุรกิจร้านเสริมสวยได้โดยไม่มีข้อจำกัด
■ หากบุคคลใดประสงค์ที่จะเปิดกิจการร้านเสริมสวย เขาหรือเธอควรได้รับข้อมูลทะเบียนอาคารจากสำนักงานเขต หรือ Government24(www.gov.kr) เพื่อทำการระบุว่า อาคารนั้นได้รับอนุญาตแล้วหรือไม่ ขนาดพื้นที่เท่าใด วัตถุประสงค์การใช้งานอาคารคืออะไร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าได้ประกอบธุรกิจในอาคารที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการก่อนลงนามในสัญญาเช่า
ประเภทเขตการค้าที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจร้านเสริมสวย

ประเภทเขตการค้าที่เหมาะสม 

ข้อดีข้อเสีย 

ลักษณะเด่น 

ทำเลหลัก 

 (เขตใจกลางเมืองหรือพื้นที่ 

ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน) 

ข้อดี 

▪ ง่ายต่อการประกันรายได้จากฐานลูกค้าสตรีที่เชื่อมโยงกับธุรกิจแฟชั่น เช่น ร้านเสื้อผ้าร้านค้าทั่วไป 

▪ ด้วยแรงดึงดูดทางแฟชั่นสูง ช่วยเพิ่มรายได้จากการให้บริการและผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพง  

▪ มีอุปสงค์ที่พอเพียงต่อความต้องการทางคุณภาพที่สูง  

ข้อเสีย 

▪ มีอัตราค่าเช่าที่สูงโดยรวม เนื่องจากการพัฒนาให้เป็นเขตการค้าใจกลางเมือง และพื้นที่ใกล้ถานีรถไฟใต้ดิน 

▪ เนื่องจากเป็นพื้นที่มีการแข่งขัน ดังนั้น ผลกำไรอาจต่ำกว่าเมื่อเทียบกับขนาดการลงทุน 

▪ ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันกับแฟรนไชส์ของร้านดีไซเนอร์ชื่อดัง 

ทำเลรอง 

(ใกล้พื้นที่อยู่อาศัย 

ในพื้นที่อยู่อาศัย) 

ข้อดี 

▪ ประกันรายได้ที่แน่นอนได้จากฐานลูกค้า โดยใช้พนักงานหลัก 1-2 คนในสถานประกอบการขนาดเล็ก  

▪ ระดับการแข่งขันน้อยกว่า เมื่อเทียบกับทำเลเขตใจกลางเมืองหรือใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน 

▪ มีการแนะนำปากต่อปากเกี่ยวกับบริการเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบต่อผู้จัดตั้งในทักษะที่น่าพึงพอใจแต่มีเงินลงทุนน้อย 

ข้อเสีย 

▪ มีอุปสงค์ที่จำกัด ด้วยตลาดของร้านขนาดเล็กและขนาดกลางแตกต่างกัน ทำให้การเพิ่มรายได้มีจำกัดอย่างเห็นได้ชัด  

▪ เนื่องจากร้านมีขนาดเล็ก จึงมีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้นได้ เป็นต้น 

<ที่มา: 「การวิเคราะห์การเริ่มต้นธุรกิจแต่ละประเภทสำหรับธุรกิจขนาดเล็กธุรกิจการให้บริการ」, องค์กรขนาดเล็ก และการบริการทางการตลาด>