การเรียกร้องในการจัดจำหน่าย
การเรียกร้องในการจัดจำหน่าย
- ความต้องการในการจัดจำหน่ายหมายถึงคำขอของเจ้าหนี้เพื่อรับเงินชดเชยคืนจากราคาขายของทรัพย์สินโดยการเข้าร่วมในขั้นตอนการดำเนินการที่เริ่มโดยเจ้าหนี้รายอื่น
ขั้นตอนการเรียกร้องในการจัดจำหน่าย
เจ้าหนี้ที่อาจเรียกร้องการจัดจำหน่าย
- ผู้เช่าที่ได้รับสิทธิพิเศษในการรับคืนการชำระและผู้ที่ได้จ่ายเงินมัดจำจำนวนเล็กน้อยอาจเรียกร้องการจำหน่ายได้โดยการเข้าร่วมในขั้นตอนการดำเนินการที่เริ่มโดยเจ้าหนี้รายอื่น (มาตรา 88 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและข้อ 3-2 (2) และ 8 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองการให้เช่าที่อยู่อาศัย)
ระยะเวลาสำหรับการเรียกร้องในการจัดจำหน่อยและระยะเวลาที่เสร็จสิ้น
- ผู้เช่าจะต้องมีการเรียกร้องจากการจัดจำหน่อยระหว่างวันที่การยึดทรัพย์มีผลใช้บังคับและระยะเวลาการจัดจำหน่ายที่กำหนดโดยศาลในการดำเนินการ (มาตรา 91 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง)
· ในกรณีที่ผู้เช่ายื่นคำร้องขอประมูลทรัพย์สินของผู้ให้เช่า,เขา/เธออาจได้รับการจัดจำหน่ายนั้นแม้ว่าเขา/เธอจะไม่ได้เรียกร้องการจัดจำหน่ายในกรณีเช่นว่านั้น เมื่อผู้เช่าไม่ได้รับการจัดจำหน่ายแต่บุคคลที่ ไม่ได้รับสิทธิดังกล่าวกลับได้รับเงิน,เขา/เธอจะมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมต่อบุคคลดังกล่าวจากการประพฤติปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม (คำตัดสินของศาลฎีกาลงวันที่ 10 ตุลาคม 2543 คดี No. 99Da 53230)
การยื่นขอการเรียกร้องในการจัดจำหน่าย
- ผู้เช่าจะยื่นรายงานเกี่ยวกับสิทธิพร้อมการเรียกร้องในการจัดจำหน่ายจากศาลในการดำเนินการพร้อมด้วยเอกสารระบุสาเหตุและจำนวนเงินที่เรียกร้อง ในกรณีดังกล่าว,ต้องมีการแนบตัวอย่างการดำเนินการ หรือสำเนาเอกสารและหลักฐานยืนยันอื่นๆของเขา/เธอเพื่อรับรองความต้องการในการจัดจำหน่าย (สำเนาสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษร,สำเนาทะเบียนผู้มีถิ่นที่อยู่,อื่นๆ) ให้แนบมาด้วยในการสมัครยื่นขอ(ข้อ 48 ของระเบียบการเกี่ยวกับการดำเนินการทางแพ่ง)
จำนวนของการจำหน่ายให้แก่ผู้เช่า
- ผู้เช่าที่ได้รับอำนาจคัดค้านและวันที่ที่ถูกกำหนด
· ในกรณีที่ผู้เช่าใดๆที่ได้รับอำนาจคัดค้านและวันที่ถูกกำหนดได้เรียกร้องให้มีการจัดจำหน่ายไม่ช้ากว่า ระยะเวลาที่กำหนดไว้สำหรับการเรียกร้องการจัดจำหน่าย คำสั่งของเขา/เธอในการจัดจำหน่ายจะขึ้นอยู่กับคำสั่งของเจ้าหนี้รายอื่นในการจัดจำหน่าย เช่น สิทธิในการประกันความมั่นคง, อื่นๆ ขึ้นตามวัน ที่สิทธิพิเศษการรับคืนการชำระมีผลบังคับใช้และจะกำหนดจำนวนเงินส่วนแบ่งตามการนั้น (มาตรา 3-2 (2) ของพระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิการเช่าที่อยู่อาศัย)
- ผู้เช่าที่จ่ายเงินมัดจำจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับสิทธิพิเศษในการรับชำระคืนตามความสำคัญสูงสุด
· ในกรณีที่ผู้เช่ารายใดที่จ่ายเงินมัดจำจำนวนน้อยได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการคัดค้านอำนาจก่อนการลงทะเบียนการตัดสินใจเกี่ยวกับการเริ่มประมูลครั้งแรกและได้เรียกร้องการจัดจำหน่ายไม่ช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้สำหรับการเรียกร้องการจัดจำหน่าย เขา/เธอจะได้รับจำนวนเงินประกันตามที่ระบุจากบุคคลอื่นที่กือครองกรรมสิทธิ์ (มาตรา 8 (1) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองการเช่าที่อยู่อาศัย)
- ผู้เช่าที่ได้ลงทะเบียนครองสิทธิ์การเช่าแล้ว
· ผู้เช่าที่ได้จดทะเบียนครองสิทธิการเช่าก่อนที่จะเริ่มการประมูลจะได้รับการจัดหน่ายแม้ว่าจะไม่ได้เรียกร้องการจัดจำหน่าย (วรรค 3 มาตรา 148 ของประมวลกฎหมายแพ่ง)
· ผู้เช่าที่ได้จดทะเบียนครองสิทธิการเช่าหลังจากการตัดสินการเริ่มประมูลอาจมีส่วนร่วมในการจัดจำหน่ายได้ก็ต่อเมื่อได้เรียกร้องการจัดจำหน่ายไม่ช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้สำหรับการเรียกร้องการจัดจำหน่าย (วรรค 2 มาตรา 148 ของประมวลกฎหมายแพ่งและข้อ 91 (1) ของระเบียบว่าด้วยการดำเนินการทางแพ่ง)
กระทำการจัดจำหน่าย
- ในกรณีที่เจ้าหนี้หรือลูกหนี้ไม่ได้รับการคัดค้านตามกฎหมายใดๆหรือในกรณีที่เจ้าหนี้ไม่ได้ปรากฏตัวในวันที่มีการจัดจำหน่ายและถือว่าได้ตกลงที่จะดำเนินการจัดจำหน่ายแล้วศาลจะจำหน่ายตามที่ได้อธิบายไว้ในตารางการจัดจำหน่ายเดิม (มาตรา 153 (1) แห่งพระราชบัญญัติการดำเนินการทางแพ่ง)
ความต้องการรักษาอำนาจคัดค้านและสิทธิพิเศษการรับคืนการชำระ
การรักษาอำนาจที่คัดค้านและสิทธิพิเศษการรับคืนการชำระ
- ผู้เช่ารายใดที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดในอำนาจคัดค้าน (การส่งมอบบ้าน + การจดทะเบียนถิ่นที่อยู่) และได้รับวันที่ที่ถูกกำหนดในสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วจะมีสิทธิได้รับเงินมัดจำตามความเห็นชอบของผู้รับประโยชน์รายย่อยและเจ้าหนี้ โดยการมีส่วนร่วมในการประมูลหรือขายทอดสาธารณะผู้เช่ารายใดที่จ่ายเงินมัดจำน้อยอาจได้รับการชำระคืนเป็นอันดับแรก (ข้อ 3-2 (2) และ 8 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองที่อยู่อาศัย)
การเลือกใช้อำนาจคัดค้านและสิทธิพิเศษในการรับคืนการชำระ
ผู้เช่าที่ได้รับอำนาจคัดค้านและสิทธิพิเศษการรับคืนการชำระอาจเลือกใช้อำนาจคัดค้านและสิทธิพิเศษในการรับคืนการชำระ
- ผู้เช่าอาจ ① ได้รับการชำระคืนเงินมัดจำเป็นกรณีพิเศษจากราคาที่แปลงสภาพของบ้านเช่าโดยใช้สิทธิพิเศษการรับคืนค่าชำระของเขา/เธอกับการมีส่วนร่วมในการจัดจำหน่าย หรือ ② เรียกร้องค่าชดเชยจากพันธะของสัญญาเช่าที่มีอยู่ของเช่าจนกว่าจะได้รับการจ่ายเงินมัดจำโดยการใช้อำนาจคัดค้านเหนือการเสนอราคาประมูลในบ้านเช่านั้นโดยไม่ต้องเข้าร่วมการจำหน่าย (ข้อ 3(1) และ 3-2(2) ของพ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิการเช่าที่อยู่อาศัย )
ความต้องการในการจัดจำหน่ายและการบอกเลิกสัญญาเช่าของผู้เช่า
ในกรณีที่ผู้เช่าได้รับคืนเงินมัดจำทั้งหมด
- กรณีที่บ้านเช่ามีการปิดประมูล ให้พันธะของสัญญาเช่าสิ้นสุดลงโดยการบอกเลิกการเช่าในช่วงที่ศาลประกาศแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบถึงคำสั่งให้จำหน่าย (คำตัดสินของศาลฎีกาลงวันที่ 18 กันยายน 2541 คดีหมายเลข 97Da 28407)
ในกรณีที่ผู้เช่าไม่ได้รับคืนเงินมัดจำทั้งหมด
- ในกรณีที่การประมูลในบ้านเช่านั้นถูกระงับ สิทธิสัญญาเช่าจะหมดอายุลงโดยการสูญสิ้นของบ้านเช่า อย่างไรก็ตาม สิทธิในการเช่าที่ได้รับอำนาจคัดค้านในจำนวนเงินประกัดทั้งหมดที่ไม่ได้รับการชำระคืนนั้นจะไม่สูญสิ้นไปด้วย (ข้อ 3-5 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองที่อยู่อาศัย)
- ในกรณีที่ผู้เช่ารายใดที่เรียกร้องการจัดจำหน่ายเพื่อเงินมัดจำทั้งหมดโดยการมีส่วนร่วมในการจัดจำหน่ายแต่ไม่ได้รับเงินมัดจำทั้งหมดและถูกผลักดันกลับไปอยู่ในลำดับการรอ,เขา/เธออาจจะเรียกร้องการชำระคืนเงินประกันจากผู้ชนะการประมูล หรือใช้บ้านเช่าและทำกำไรจากการนั้นโดยอ้างถึงพันธะของสัญญาเช่าจนกว่าจะได้รับชำระคืนเงินมัดจำทั้งหมด (การตัดสินใจของศาลฎีกาลงวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2541 คดีหมายเลข 98Da 2754)
การส่งมอบบ้านเช่า
การส่งมอบบ้านเช่า
- ผู้เช่าซึ่งมีสิทธิพิเศษการรับคืนการชำระมีภาระผูกพันในการส่งมอบวัตถุให้เช่าในขณะที่ได้รับชำระคืนเงิน มัดจำจากมูลค่าของบ้านเช่าให้แก่เจ้าหนี้รายอื่น (ข้อ3-2(2) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองการเช่าที่อยู่อาศัยและมาตรา 536 แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง)
- ผู้เช่าที่ประสงค์จะรับเงินมัดจำในการประมูลหรือขายทอดตลาดต้องพิสูจน์การส่งมอบบ้านเช่า ไม่จำเป็นต้องมีหน้าที่ส่งมอบบ้านของผู้เช่าก่อนที่ผู้ให้เช่าจะต้องคืนเงินมัดจำ (มาตรา 3-2 (3) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองที่อยู่อาศัยและคำวินิจฉัยของศาลฎีกาลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2537 คดีหมายเลข 93Da 55241)