ระบบการลงทะเบียนครองสิทธิการเช่า
นิยามเกี่ยวกับระบบการลงทะเบียนครองสิทธิการเช่า
- ระบบการลงทะเบียนครองสิทธิการเช่า ช่วยให้ผู้เช่าสามารถเคลื่อนย้ายออกจากบ้านเช่าได้อย่างเสรีโดย เขา/เธอยังคงรักษาอำนาจคัดค้านและสิทธิพิเศษในการรับคืนการชำระเมื่อเสร็จสิ้นการจดทะเบียนตามคำสั่งของศาล
การสมัครขอจดทะเบียนครองสิทธิ์การเช่า
ข้อกำหนดสำหรับการสมัคร
- ②หากไม่มีการเรียกคืนเงินประกัน ① หลังจากสิ้นสุดสัญญาเช่า,ผู้เช่าอาจยื่นคำขอรับใบลงทะเบียนครองสิทธิการเช่ากับศาลแขวง, สาขาของศาลแขวง, หรือศาลประจะเขต Si / Gun ที่มีอำนาจในการกำหนด ในบริเวณสถานที่ตั้งของบ้านเช่านั้น (มาตรา 3-3 (1) ของพ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิสัญญาการเช่าที่อยู่อาศัย)
· ผู้เช่าสามารถยื่นคำขอรับใบลงทะเบียนครองสิทธิการเช่าหลังจากสิ้นสุดสัญญาเช่าโดย, ผู้เช่าอาจยื่น คำขอจดลงทะเบียนครองสิทธิการเช่าเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลงหลังจากได้รับหนังสือบอกเลิกหรือยกเลิกตามสัญญารวมทั้งสัญญาเช่าที่สิ้นสุดลงตามระยะเวลาของสัญญา
ขั้นตอนการสมัคร
- ผู้ เช่าใดๆ ที่ประสงค์จะยื่นคำขอรับการจดทะเบียนครองสิทธิการเช่าต้องกรอกใบสมัครซึ่งรวมถึงข้อมูลต่อไปนี้,ใส่ชื่อและตราประทับของเขา/เธอ หรือลงลายมือชื่อ,แล้วยื่นใบสมัครพร้อมกับเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยังศาลแขวง, สาขาของศาลแขวงหรือศาลเขต Si / Gun ซึ่งมีเขตอำนาจตัดสินเหนือพื้นที่ตั้งของบ้านที่เช่า (ข้อ 3-3 (1) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิสัญญาการเช่าที่พักอาศัย):
· การทำเครื่องหมายแห่งคดี
· ชื่อและที่อยู่ของผู้เช่าและผู้ให้เช่า, และหมายเลขทะเบียนที่อยู่อาศัยของผู้เช่า (ถ้าผู้เช่าหรือผู้ให้เช่า เป็นนิติบุคคลหรือกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่นิติบุคคล, ชื่อของนิตุบุคคลหรือกลุ่มดังกล่าว, ชื่อของตัวแทนดังกล่าว, หมายเลขทะเบียนนิติบุคคล และที่ตั้งของสำนักงานใหญ่และสถานที่ประกอบธุรกิจ)
· ถ้ามีตัวแทนยื่นใบสมัคร,ต้องใช้ชื่อและที่อยู่ของเขา/เธอ
· ข้อบ่งชี้ถึงบ้านหรืออาคารซึ่งเป็นวัตถุแห่งสัญญาเช่า (ในกรณีที่วัตถุแห่งสัญญาเช่าเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหรืออาคารให้แนบภาพประกอบที่ระบุว่าเป็นส่วนดังกล่าว)
· เงินประกันการเช่าที่ยังไม่ได้รับคืน,และค่าเช่า (ในกรณีที่ทำสัญญาเช่าที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้กับกฏบัตรเงินประกันบนพื้นฐานความพอใจในราคาหลักประกัน พื้นฐานเงินมัดจำการเช่า)
· เจตจำนงและเหตุผลในการสมัคร
※ เอกสารที่ต้องยื่นเมื่อยื่นสมัครขอรับการจดทะเบียนครองสิทธิการเช่า (ข้อ 3 ของระเบียบคำขอจดทะ เบียนการเช่า)
· หนังสือรับรองสถานที่จดทะเบียนของบ้านหรืออาคารที่จดทะเบียนเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่า
· เอกสารยืนยันว่าบ้านหรืออาคารที่ผู้ให้เช่าไม่ได้เป็นเจ้าของสามารถลงทะเบียนเพื่อการดูแลรักษาความเป็นเจ้าของได้ทันทีโดยใช้ชื่อของผู้ให้เช่า
· สัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษร;
· ในกรณีของผู้เช่าที่ได้รับอำนาจคัดค้านในขณะที่ยื่นคำขอเอกสารที่ระบุวันเข้าอยู่ของผู้เช่าและวันที่รายงานตัวทะเบียนถิ่นที่พำนัก
· ในกรณีของผู้เช่าที่ได้รับสิทธิพิเศษในรับคืนการชำระในขณะที่ยื่นคำขอเอกสารที่ระบุวันเริ่มเข้าอยู่ของในบ้านเช่าและวันที่รายงานตัวทะเบียนท่ีพำนัก,และสัญญาเช่าลายลักษณ์อักษรที่เป็นเอกสารรับรองเอกสารหรือมีประทับตราพร้อมด้วยวันที่ที่ถูกกำหนด
· กรณีที่วัตถุประสงค์ของการเช่าไม่ได้เป็นส่วนที่อยู่อาศัย ต้องมีเอกสารที่ชี้ให้เห็นวามีการใช้ที่อยู่อาศัยในการเช่าเพื่อพักอาศัยจากระยะเวลาของสัญญาเช่าที่ทำการตกลง
- ผู้เช่าอาจขอให้ผู้ให้เช่าคืนเงินค่าใช้จ่ายชดเชยที่เกิดขึ้นจากการยื่นคำขอรับทะเบียนครองสิทธิการเช่าและเพื่อรับรายงานการจดทะเบียนการเช่า (ข้อ 3-3 (8) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิการเช่าที่อยู่อาศัย)
ผลกระทบจากการจดทะเบียนครองสิทธิการเช่า
การคงไว้ซึ่งอำนาจคัดค้านและสิทธิพิเศษการรับคืนการชำระ
- ในกรณีที่ผู้เช่าได้รับอำนาจคัดค้านหรือสิทธิพิเศษการรับคืนการชำระแล้ว ก่อนการจดทะเบียนครองสิทธิ การเช่า การมีอำนาจคัดค้านหรือสิทธิพิเศษการรับคืนการชำระนั้นจะต้องคงไว้เหมือนเดิม และถึงแม้ เขา/เธอจะสูญเสียข้อกำหนดในการอำนาจคัดค้านหลังจากจดทะเบียนครองสิทธิการเช่าแล้วก็ตาม,อำนาจการคัดค้านหรือสิทธิพิเศษการรับคืนการชำระที่เขาได้รับไว้จะต้องไม่สูญหายไป (ภายใต้ข้อ 3-3 (5) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองการเช่าที่อยู่อาศัย)
การครอบครองอำนาจคัดค้านและสิทธิพิเศษการรับคืนการชำระ
- หากผู้เช่าไม่ได้รับอำนาจคัดค้านหรือสิทธิพิเศษการรับคืนการชำระก่อนการลงทะเบียนครองสิทธิการเช่า,เขา/เธออาจได้รับอำนาจคัดค้านและสิทธิพิเศษการรับคืนการชำระโดยการจดทะเบียนสิทธิการเช่าให้แล้วเสร็จ (เนื้อหาหลักข้อ 3-3 (5) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองการเช่าที่อยู่อาศัย)
ลำดับความสำคัญของเงินประกันจำนวนเล็กน้อยที่นอกเหนือจากสิทธิพิเศษการรับคืนการชำระ
- ผู้เช่าที่เช่าบ้านหลังการจดทะเบียนครองสิทธิการเช่าเสร็จสิ้นจะไม่มีสิทธิได้รับเงินมัดจำจำนวนเล็กน้อย (ข้อ 3-3 (6) ของพรบ. คุ้มครองผู้เช่า)