THAI

- ผู้ให้เช่าอาจร้องขอให้ผู้เช่าชำระค่าเช่า (มาตรา 618 แห่งพระราชบัญญัติแพ่ง)

-ถ้าค่าเช่าหรือค่ามัดจำตามที่กำหนดไว้ในสัญญานั้นต่ำเกินความเหมาะสมทางเศรษฐกิจเนื่องจากความเปลี่ยนแปลงในการเก็บภาษี ค่าสาธารณูปโภค หรือค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆในบ้านเช่า หรือความเปลี่ยนแปลงทางสถานะทางเศรษฐกิจอื่น ๆในระหว่างที่อยู่ในสัญญาเช่า ผู้ให้เช่าสามารถเรียกให้ผู้เช่าเพิ่มค่าเช่าหรือค่ามัดจำได้ตามความจำเป็น(พระราชบัญญัติคุ้มครองการเช่าที่อยู่อาศัย มาตรา 7 (1)ช่วงต้น)

- ผู้ให้เช่าอาจขอให้ผู้เช่าส่งคืนวัตถุที่เช่าเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลงในกรณีเช่นนี้, ผู้ให้เช่าอาจเรียกคืนวัตถุที่ ให้เช่าไปเป็นสภาพเดิมจากผู้เช่า (ข้อ 615, 618 และ 654 แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง)

- ผู้เช่าไม่อาจคัดค้านผู้ให้เช่าซึ่งกระทำการใด ๆ ที่เห็นว่าจำเป็นต่อการเก็บรักษาวัตถุที่เช่า (มาตรา 624 แห่งพระราชบัญญัติแพ่ง)

- ผู้ให้เช่ามีหน้าที่ให้ผู้เช่าใช้บ้านซึ่งเป็นวัตถุและรับผลกำไรจากการนั้น (มาตรา 618 แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง)

- ผู้ให้เช่าต้องส่งมอบบ้านให้แก่ผู้เช่าและมีหน้าที่ซ่อมแซมบ้านเช่าและรักษาสภาพที่จำเป็นสำหรับการใช้ และการทำกำไรของเจ้าของบ้านเช่าในขณะที่สัญญาเช่ามีผลใช้บังคับ (มาตรา 623 แห่งพระราชบัญญัติแพ่ง)

- ในกรณีที่ผู้ให้เช่าไม่ซ่อมแซมปรับปรุงบ้านเช่า ผู้เช่าอาจ ① เรียกร้องค่าชดเชยเพื่อชดใช้ความเสียหาย ② ปฏิเสธการชำระเงินค่าเช่าทั้งหมดหรือบางส่วนจนกว่าจะซ่อมเสร็จ ③ ร้องขอให้มีการปรับลดค่าเช่าตามสัดส่วนที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้หรือกลายเป็นไปไม่ได้ที่จะทำกำไรได้ หรือ ④ ยกเลิกสัญญาเช่าหากส่วนที่เหลือของบ้านเช่าไม่เพียงพอที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ทำสัญญาเช่าไว้ (มาตรา 627 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและศาลฎีกา คำตัดสินลงวันที่ 25 เมษายน 2540 คดีหมายเลข 96Da 44778 และ 44785)

- ในกรณีที่ผู้ให้เช่ายินยอมให้ใช้หรือรับผลกำไรจากการเช่าบ้านแม้ว่าผู้ให้เช่าจะส่งมอบบ้านให้แก่ผู้เช่า ภายหลังจากที่ได้ทำสัญญาเช่าที่อยู่อาศัยแล้ว ผู้ให้เช่าต้องพยายามขจัดความวุ่นวายดังกล่าวนั้น (มาตรา 214 และมาตรา 623 แห่งพระราชบัญญัติแพ่ง)

- ผู้ให้เช่ามีหน้าที่ต้องส่งคืนเงินมัดจำให้แก่ผู้เช่าเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลงเนื่องจากครบกำหนดอายุสัญญาเช่า ฯลฯ (คำตัดสินของศาลฎีกาลงวันที่ 19 มกราคม 2531 เลขที่ 87Daka 1315)