การเลือกบริษัทขนย้าย การระงับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ
การตัดสินใจรูปแบบของการขนย้าย- ในกรณีที่มีการเคลื่อนย้ายโดยบริษัทขนส่งทั่วไป ผู้จ้างจะจัดเก็บและจัดการของสัมภาระจะย้ายที่เป็น ของเขา/เธอ และจากนั้นผู้ดำเนินการขนส่งย้ายสัมภาระ (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "ผู้ประกอบการ") จะทำการ ขนส่งและย้ายสัมภาระนั้นไปยังจุดหมายปลายทาง
- ในการย้ายโดยบริษัทที่ให้บริการเต็มรูปแบบลูกค้าจะร้องขอการจัดบรรจุและการจัดส่งจากผู้ประกอบการและผู้ประกอบการจะดูแลกระบวนการเคลื่อนย้ายสัมภาระทั้งหมดรวมทั้งการจัดบรรจุการขนส่งและการจัดวางสัมภาระ
การร้องขอใบเสนอราคาจากผู้ประกอบการ- เมื่อใดก็ตามที่ผู้จ้างร้องขอใบเสนอราคาจากผู้ประกอบการหลังจาการเลือกรุปแบบการขนย้ายแล้ว ผู้ประกอบการจะทำการร่างและออกใบเสนอราคาให้แก่ผู้จ้าง (ข้อ 4 แห่งข้อตกลงร่วมว่าด้วยมาตรฐานการขนส่งบรรทุก)
การเลือกผู้ประกอบการ- หลังจากได้รับใบเสนอราคาจากผู้ประกอบการธุรกิจหลายรายและเปรียบเทียบราคา และผู้จ้างจะต้องทำ การเลือกผู้ประกอบการแล้วนั้น ขอแนะนำให้เลือกผู้ประกอบการที่ได้รับรับรองจากกระทรวงสาธารณูป โภคและคมนาคมแห่งเกาหลีใต้ เพื่อให้สะดวกต่อการรับค่าเสียหายชดเชยใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการ เคลื่อนย้ายนั้น
· เยี่ยมชมเว็บไซต์ของ สมาคมการขนส่งลำเลียงสัมภาระสินค้าแห่งเกาหลีใต้ (www.kffa.or.kr) และค้นหาผู้ประกอบการ ขอสำนักงาน Si/Gun/Gu หรือขอสำเนาใบอนุญาตสำหรับธุรกิจขนส่งทาง รถบรรทุกจากผู้ประกอบการเมื่อคุณได้รับใบเสนอราคาหรือทำสัญญา เพื่อตรวจสอบว่าผู้ประกอบการ ว่าได้รับอนุญาตหรือไม่.
การเตรียมจัดทำเอกสารในการเขียนสัญญาขนส่งสัมภาระสินค้า- ขอแนะนำให้จัดทำสัญญาการขนส่งสินค้าเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อรับค่าชดเชยสำหรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาและความเสียหายใด ๆ
การขนย้าย- การชำระเงินค่ามัดจำสัญญาและค่าขนส่ง
· เมื่อทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ประกอบการอาจเรียกเก็บเงินมัดจำตามสัญญาได้ 10% ของยอดรวมของค่าขนส่ง ฯลฯ (ข้อ 6 แห่งข้อตกลงร่วมมาตรฐานการขนส่ง)
· ผู้จ้างจะต้องไม่จ่ายค่าบริการเพิ่มเติมเช่นรางวัล ฯลฯ โดยไม่คำนึงถึงลักษณะวิสัย นอกเหนือไปจากค่า ระวางขนส่งและค่าขนส่งส่วนเกิน (ข้อ 8 (3) ของข้อตกลงร่วมมาตรฐานของการขนส่งสินค้า)
การยกเลิกสัญญาการขนส่งสินค้าและการชดเชยความเสียหาย- การยกเลิกสัญญาการขนส่งสินค้า
· ในกรณีที่ลูกค้ายกเลิกสัญญาเนื่องจากเหตุผลส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา/ตัวเธอเองจะต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องด้วย (ข้อ 9 (1) ของข้อตกลงร่วมมาตรฐานการขนส่งสินค้า)
· ในกรณีที่ผู้ประกอบการยกเลิกสัญญาเนื่องจากเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับตัวผู้ประกอบการเอง, จะต้องชดใช้ ค่าเสียหายแก่ผู้จ้างที่เกี่ยวข้องหากผู้จ้างได้ชำระเงินมัดจำเรียบร้อยแล้ว ผู้ประกอบการจะต้องคืนเงิน มัดจำดังกล่าวด้วยนอกเหนือไปจากค่าชดเชยความเสียหาย (มาตรา 9 (2) ของข้อตกลงร่วมมาตรฐานการ ขนส่งสินค้า)
- ความรับผิดของผู้ประกอบการสำหรับความเสียหาย
· เว้นไว้แต่ว่าผู้ประกอบการสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ประกอบการดังกล่าว, ลูกจ้างของผู้ประกอบการและบุค คลอื่นที่เกี่ยวข้องในการการบรรทุกขนส่งสัมภาระสินค้าไม่ได้สร้างความประมาทแก่การบรรจุ, การขนส่ง, จัดเก็บ, จัดการ ฯลฯ ผู้ปรกอบการจะต้องรับผิดชอบในการชดเชยความเสียหายแก่ผู้จ้างที่เกี่ยวข้อง (ข้อ 14 (1) และ (2) ของข้อตกลงมาตรฐานของการขนส่งสินค้า)
· ในกรณีที่การสูญหาย,สูญสลายหรือการจัดส่งสินค้าล่าช้า อันเกิดจากความตั้งใจหรือความประมาทเลิน เล่ออย่างร้ายแรงที่เกิดขึ้นจากผู้ประกอบการหรือพนักงานของบริษัท ฯลฯ หรือผู้จ้างตรวจพิสูจน์พบความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงจากการสูญหาย, สูญสลาย หรือการจัดส่งสินค้าล่าช้า ทั้งมวลผู้ประกอบการ ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้จ้างตามความมูลค่าเสียหายที่เกิดขึ้น (มาตรา 393 แห่ง พ.ร.บ.แพ่ง และข้อ 14 (3) ของข้อตกลงร่วมตามมาตรฐานของการขนส่งสินค้า)
- การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทความรับผิดชอบต่อความเสียหายของผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางรถบรรทุก
· ลูกค้าอาจร้องขอให้หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคแห่งเกาหลีใต้ (www.kca.go.kr) องค์กรคุ้มครองผู้บริโภค,และอื่นๆสำหรับการระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากการสูญหาย,สูญสลายหรือการจัดส่งล่าช้าของการขนส่งสินค้า (มาตรา 7 ของพ.ร.บ.การขนส่งทางรถบรรทุก)
※เยี่ยมชมเว็บไซต์ของสมาคมขนส่งบรรทุกสินค้าแห่งเกาหลีใต้ (www.kffa.or.kr)เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัญญาการขนส่งสินค้า