การสละสัญชาติต่างด้าว
ข้อบังคับของบุคคลผู้ได้รับสัญชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้ที่จะสละสัญชาติต่างด้าว
- กรณีทั่วไป
· คนต่างด้าวที่ได้รับสัญชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้จะต้องสละสัญชาติต่างด้าวภายใน 1 ปีหลังได้รับสัญชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้ หากเขาหรือเธอไม่สามารถสละสัญชาติต่างด้าวภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ เขาหรือเธอจะต้องเสียสัญชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้ทันทีหลังจากวันหมดอายุ (มาตรา 10 (1) และ (3) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยสัญชาติ)
- กรณียกเว้น
· แม้ว่าจะมีข้อบังคับในการสละสัญชาติต่างด้าวภายใน 1 ปี บุคคลใดต่อไปนี้จะสละสัญชาติต่างด้าวหรือให้รับรองเจตนาของเขาหรือเธอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่จะไม่ใช้สัญชาติต่างด้าวของเขาหรือเธอในสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ดังที่กำหนดไว้โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ภายในหนึ่งปีนับจากวันที่เขาหรือเธอได้รับสัญชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้เพื่อคงไว้ซึ่งสัญชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้ (มาตรา 10 (2) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยสัญชาติ และ มาตรา 13 แห่งพระราชกฤษฎีกาการบังคับใช้กฎหมายแห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยสัญชาติ)
1. บุคคลที่มีเหตุเข้ากับกรณีใดต่อไปนี้เมื่อเขาหรือเธอได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติได้
ก. บุคคลที่มีถิ่นพำนักในสาธารณรัฐเกาหลีใต้ติดต่อกันอย่างน้อยสองปีและสมรสกับชาวเกาหลีใต้
ข. บุคคลที่เว้นจากการสมรสกับชาวเกาหลีใต้ไป 3 ปี และมีถิ่นพำนักในสาธารณรัฐเกาหลีใต้เป็นเวลาติดต่อกันอย่างน้อยหนึ่งปี
2. บุคคลที่ไม่สามารถสละสัญชาติต่างด้าวได้เนื่องด้วยกฎหมายและสถาบันของประเทศต่างด้าว หรือบุคคลที่ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ก่อนหน้านี้ที่สอดคล้องกัน
3. บุคคลที่ยื่นเอกสารรับรองเหตุความยุ่งยากในขั้นตอนต่อไปนี้สำหรับการสละสัญชาติภายในระยะเวลาที่กำหนดในมาตรา 10 (1) แห่งพระราชบัญญัติ แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เนื่องด้วยกฎหมายและแผนการของประเทศต่างด้าวที่เกี่ยวข้อง ถึงแม้เขาหรือเธอจะเริ่มขั้นตอนการสละสัญชาติของประเทศต่างด้าวโดยเร็วหลังจากได้รับสัญชาติของสาธารณรัฐเกาหลีใต้แล้ว
· บุคคลที่มีสองสัญชาติทั้งสาธารณรัฐเกาหลีใต้และต่างด้าว (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บุคคลหลายสัญชาติ” ) จะได้รับการปฏิบัติในฐานะพลเมืองสาธารณรัฐเกาหลีใต้เท่านั้น ตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ของสาธารณรัฐเกาหลีใต้ (มาตรา 11-2 (1) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยสัญชาติ)
· เมื่อบุคคลที่มีหลายสัญชาติประสงค์เข้าร่วมในสาขาอาชีพที่เขาหรือเธอ ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติหน้าที่การงานขณะที่ถือสัญชาติต่างด้าวภายใต้กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง บุคคลนั้นจะต้องสละสัญชาติต่างด้าวของตนเอง (มาตรา 11-2 (2) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยสัญชาติ)
- การนำส่งหนังสือรับรองการสละสัญชาติ
· เมื่อบุคคลมีเงื่อนไขเข้ากับกรณีวรรค 3 นอกเหนือจากการเสร็จสิ้นขั้นตอนการสละสัญชาติต่างด้าว เขาหรือเธอจะต้องยื่นหนังสือรับรองการสละสัญชาติ ฯลฯ แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมโดยเร็ว (มาตรา 13 (2) แห่งพระราชกฤษฎีกาการบังคับใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยสัญชาติ)
· บุคคลที่นำส่งหนังสือรับรองการสละสัญชาติภายใต้กฎเกณฑ์ข้างต้น ฯลฯ จะออกเป็นลายลักษณ์อักษรรับรองการสละสัญชาติต่างด้าวโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (มาตรา 11 (2) แห่งพระราชกฤษฎีกาการบังคับใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยสัญชาติ)
รายงานการขึ้นทะเบียนผู้อยู่อาศัย
ข้อกำหนดในการรายงานตัว
- บุคคลผู้ซึ่งได้รับสัญชาติเกาหลีและสละสัญชาติต่างด้าวของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะต้องส่งรายงานเพื่อขึ้นทะเบียนผู้อยู่อาศัยที่สำนักงาน Eup/Myeon/Dong ภายใต้เขตการปกครองของภูมิลำเนาของตน ตามพระราชบัญญัติการขึ้นทะเบียนถิ่นที่อยู่ (มาตรา 6 (1) และ 8 แห่งพระราชบัญญัติการขึ้นทะเบียนถิ่นที่อยู่)
เอกสารที่นำส่ง
- ในการยื่นรายงานเพื่อจดทะเบียนเป็นผู้อยู่อาศัย ผู้ยื่นจะต้องส่งเอกสารดังนี้ ①สำเนาหนังสืออนุญาตการแปลงสัญชาติ ② หนังสือรับรองพื้นฐาน ③หนังสือยืนยันการสละสัญชาติต่างด้าวเป็นลายลักษณ์อักษร (หนังสือยืนยันการผ่อนผันการสละสัญชาติต่างด้าวเป็นลายลักษณ์อักษร) เป็นต้น
การออกหนังสือรับรองการจดทะเบียนถิ่นที่อยู่
- ใบทะเบียนถิ่นที่อยู่จะออกให้ภายใน 10 ถึง 14 วันหลังจากยื่นเรื่องการขึ้นทะเบียนผู้อยู่อาศัย
การส่งมอบหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนคนต่างด้าว
ข้อกำหนดในการส่งมอบหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนคนต่างด้าว
- กรณีชาวต่างชาติได้รับสัญชาติเกาหลีแล้วจะต้องส่งมอบหนังสือรับรองการจดทะเบียนชาวต่างชาติของตนต่ออธิบดีฯลฯ ที่มีอำนาจในที่พำนักของตน (「พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง」มาตรา 37 (2) และ「พระราชกฤษฎีกาการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติควบคุมคนเข้าเมือง」มาตรา 46 (2) ข้อ 1)
ระยะเวลาและวิธีการส่งมอบ
- บุคคล คู่สมรส บิดามารดา ผู้สนับสนุนโดยพฤตินัย พี่น้อง คนกลาง หรือผู้ที่อยู่กินร่วมกัน จะต้องมอบหนังสือรับรองการจดทะเบียนคนต่างด้าวภายใน 30 วันนับ แต่วันที่ยื่นแบบแสดงตนของผู้มีถิ่นที่อยู่ (วรรค 1 ของมาตรา 46 (2) และมาตรา 89 (1) แห่งพระราชกฤษฎีกาการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติควบคุมคนเข้าเมือง)
เอกสารที่ต้องใช้ในการส่งมอบ
- ในการส่งมอบหนังสือรับรองการจดทะเบียนคนต่างด้าว บุคคลนั้นจะต้องแนบสำเนาหนังสือรับรองการแปลงสัญชาติ หนังสือรับรองพื้นฐาน และ ใบทะเบียนถิ่นที่อยู่ของคนต่างด้าวด้วย
ค่าปรับในกรณีไม่ปฏิบัติตาม
- ผู้ใดละเมิดไม่ส่งมอบใบทะเบียนคนต่างด้าวของตนตามระเบียบดังกล่าว จะต้องถูกปรับเป็นจำนวนเงินตั้งแต่ 100,000 วอนหรือไม่เกินหนึ่งล้านวอน (วรรค 1 ของมาตรา 100 (2) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเข้าเมืองและอนุวรรค 2 (ซ) ในตารางแนบ 2 ของพระราชกฤษฎีกาการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติควบคุมคนเข้าเมือง)
※บัตรประจำตัวคนต่างด้าวที่ถูกส่งคืนจะถูกทำลายโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและอธิบดีหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องแล้ว(อ้างอิง「พระราชกฤษฎีกาการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติควบคุมคนเข้าเมือง」มาตรา 46 ข้อ 6)
การขอกลับมาใช้สัญชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้
ความหมายของระบบการขอกลับมาใช้สัญชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้
- บุคคลผู้สูญเสียสัญชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้เนื่องมาจากการละทิ้งสัญชาติของตนในต่างประเทศ ภายในหนึ่งปีหลังจากการสูญเสียสัญชาติของตนในสาธารณรัฐเกาหลี เขาจะได้รับสัญชาติของสาธารณรัฐเกาหลีอีกครั้ง เมื่อรายงานตัวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (มาตรา 11 (1) แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ)
- บุคคลผู้นั้นอาจได้รับสัญชาติของสาธารณรัฐเกาหลีใต้อีกครั้งโดยการรายงานตัวโดยไม่ต้องผ่าน ขั้นตอนการขออนุญาตขอสัญชาติ
ขั้นตอนการรายงานตัวเพื่อขอกลับมาใช้สัญชาติเดิม
- บุคคลที่ประสงค์จะขอรับสัญชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้จะต้องยื่นรายงานการขอรับสัญชาติ (แบบฟอร์ม 1 แห่งกฎหมายว่าด้วยการบังคับใช้พระราชบัญญัติสัญชาติ) และเอกสารต่อไปนี้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม [มาตรา 15 (1) แห่งการบังคับใช้พระราชกฤษฎีกาของพระราชบัญญัติสัญชาติและมาตรา 10 แห่งกฎหมายการบังคับใช้พระราชบัญญัติสัญชาติ และข้อที่17 「แนวทางการ ดำเนินการด้านสัญชาติ」].
1. หนังสือรับรองเกี่ยวกับบันทึกความสัมพันธ์ทางครอบครัวหรือเอกสารหลักฐานการได้มาของสัญชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้
2. เอกสารยืนยันการสละสัญชาติต่างด้าวพร้อมระบุวันที่
3. เอกสารที่จำเป็นสำหรับการแจ้งการได้สัญชาติตามมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติการขึ้นทะเบียน ฯลฯ ของความสัมพันธ์ในครอบครัวและการเตรียมการ ฯลฯ ของการขึ้นทะเบียนความสัมพันธ์ในครอบครัว ที่กำหนดโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม